ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมัน WTI ทะยานขึ้นกว่า 3% นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐที่ขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,814.39 จุด เพิ่มขึ้น 236.82 จุด หรือ +0.68%
-- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 26.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนก.ค.ที่พุ่งขึ้น 37% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 34%
ส่วนยอดนำเข้าเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 44.7% ซึ่งแข็งแกร่งกว่าในเดือนก.ค.ที่ปรับตัวขึ้น 28.5% และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 40%
-- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนส.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้น 0.5%
ทั้งนี้ ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวม เป็นการวัดการปรับตัวของภาคโรงงาน, เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค
-- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าลดลง 0.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้น 0.3% และเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 10 เดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ค.
การปรับตัวลงของดัชนีราคานำเข้าในเดือนส.ค.ได้รับผลกระทบจากการร่วงลงของราคาน้ำมัน
-- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 6.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 3.5 ล้านบาร์เรล
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 5.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
-- ราคาหุ้น Globalstar ซึ่งเป็นบริษัทสื่อสารผ่านดาวเทียมของสหรัฐ ดีดตัวขึ้นในการซื้อขายเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากดิ่งลงอย่างหนักวานนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันเทขายหุ้น เนื่องจากผิดหวังที่ iPhone 13 ไม่มีการใช้เทคโนโลยีสื่อสารผ่านระบบดาวเทียมตามที่ปรากฎในข่าวลือก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ราคาหุ้น Globalstar ซึ่งดำเนินกิจการกลุ่มดาวเทียมโคจรต่ำสำหรับโทรศัพท์ผ่านดาวเทียม พุ่งขึ้นกว่า 5% ในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ หลังจากปิดตลาดวานนี้ทรุดตัวลง 23.25% สู่ระดับ 1.75 ดอลลาร์ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีท
-- ถึงแม้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทดีดตัวขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่สถิติในอดีตบ่งชี้ว่า ตลาดหุ้นสหรัฐมักปรับตัวย่ำแย่ในเดือนก.ย.
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก "Stock Trader's Almanac" ระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2493 เดือนก.ย.เป็นเดือนที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวย่ำแย่ที่สุดของปี และนับตั้งแต่ปี 2488 ดัชนี S&P 500 ร่วงลงเฉลี่ย 0.56% ในเดือนก.ย. ขณะที่เดือนก.พ.เป็นอีกหนึ่งเดือนที่ดัชนี S&P 500 มักปรับตัวลง
-- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ที่แข็งแกร่ง
ทั้งนี้ เฟดสาขานิวยอร์ก รายงานว่า ดัชนีภาคการผลิตพุ่งขึ้นสู่ระดับ 34.3 ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 18.0 จากระดับ 18.3 ในเดือนส.ค.
-- แอร์เอเชีย เอ็กซ์ (AirAsia X) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของแอร์เอเชีย ซึ่งให้บริการเที่ยวบินระยะไกล แถลงว่า ทางบริษัทได้รับอนุญาตจากศาลสำหรับการขยายเวลาเส้นตายในการจัดประชุมเจ้าหนี้จนถึงเดือนมี.ค.2565
ก่อนหน้านี้ ในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา แอร์เอเชีย เอ็กซ์ ได้รับอนุญาตจากศาลในการจัดประชุมเจ้าหนี้ภายใน 180 วัน
-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่มีการเปิดเผยในวันนี้ ญี่ปุ่นมีกำหนดเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนส.ค., ออสเตรเลียจะเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนส.ค. และสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนส.ค., ดัชนีการผลิตเดือนก.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค.