World Today: สรุปข่าวต่างประเทศวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday October 6, 2021 17:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บรรดาผู้บริหารในแวดวงบริการสุขภาพและเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า ความต้องการชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของบรรดานายจ้างในสหรัฐที่เพิ่มขึ้น ได้ทำให้ปัญหาขาดแคลนชุดตรวจหาเชื้อยิ่งรุนแรงขึ้น และส่งผลให้บริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของรัฐและหน่วยงานท้องถิ่นต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นตามไปด้วย

รัฐบาลท้องถิ่นต่าง ๆ ของสหรัฐต่างเผชิญกับปัญหาขาดแคลนชุดตรวจ Rapid Test มาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว หลังจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตา นอกจากนี้ หน่วยงานรัฐหลายแห่งยังเปิดเผยว่ากำลังประสบปัญหาขาดแคลนชุดตรวจหาเชื้อแบบ Rapid Test ที่สามารถทราบผลตรวจได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที และเป็นส่วนสำคัญของแผนติดตามยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19

ขณะเดียวกัน ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา บรรดานายจ้างในสหรัฐต่างพากันกักตุนชุดตรวจหาเชื้อ หลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศเมื่อเดือนก.ย.ว่า จะออกข้อกำหนดสำหรับกิจการที่มีพนักงานมากกว่า 100 คน ให้พนักงานที่ยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทุกคนต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อ

-- นางคริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า IMF ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกในปี 2564 ลงสู่ระดับต่ำกว่า 6% โดยระบุถึงความเสี่ยงเกี่ยวกับหนี้สิน, เงินเฟ้อ และทิศทางเศรษฐกิจที่ไม่สอดคล้องกัน อันเนื่องมาจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

-- ฟรานเซส ฮอเกน อดีตผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ของเฟซบุ๊ก ได้ออกมาเปิดโปงพฤติกรรมของโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่อย่างเฟซบุ๊กต่อสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐวานนี้ โดยกล่าวว่า สภาคองเกรสต้องเข้าแทรกแซงการทำธุรกิจของเฟซบุ๊กเพื่อจัดการกับวิกฤตนี้

ฮอเกนเปิดเผยว่า เธอคือผู้ปล่อยเอกสารข้อมูลภายในของเฟซบุ๊กให้กับเดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล โดยฮอแกนให้สัมภาษณ์กับรายการ "60 นาที" ทางช่องซีบีเอสเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจนเป็นข่าวใหญ่ โดยระบุว่า ปัญหาที่เธอพบจากการทำงานให้เฟซบุ๊กนั้นเลวร้ายกว่าบริษัทอื่นที่เธอร่วมงานด้วย ซึ่งรวมถึง กูเกิล, เยลป์ (Yelp) และพินเทอเรส (Pinterest) โดยเธอได้คัดลอกเอกสารงานวิจัยภายในหลายหมื่นหน้าของบริษัท ก่อนที่จะลาออกจากเฟซบุ๊กในเดือนพฤษภาคม

ฮอเกน เปิดเผยกับฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐว่า เฟซบุ๊กมุ่งสร้างกำไรมากกว่าที่จะสนใจความปลอดภัยของผู้ใช้งาน เนื่องจากอัลกอริทึมของเฟซบุ๊กมักจะแสดงโพสต์ที่มียอดการกดไลก์กดแชร์สูง ซึ่งในบางกรณีก็เป็นโพสต์ที่อาจเป็นอันตรายกับผู้ใช้งานได้

-- องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 กำลังจะเสียชีวิตไปอย่างสูญเปล่า โดยระบุถึงความไม่เท่าเทียมกันในการกระจายวัคซีนทั่วโลกว่าเป็นหนึ่งในอุปสรรคสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 ให้กับประชาชน

"การไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้นั้นเป็นเรื่องที่บั่นทอนจิตใจ จะเรียกว่ายิ่งกว่าบั่นทอนจิตใจก็ได้ มันยิ่งกว่าสิ้นหวัง จนไม่รู้จะหาคำพูดไหนมาอธิบาย ดิฉันขอบอกเลยว่า หากเราใช้วัคซีนกว่า 6 พันล้านโดสต่างไปจากในปัจจุบัน สถานการณ์จะไม่เป็นอย่างในตอนนี้เลย" แพทย์หญิงมาเรีย แวน เคอร์คอฟ หัวหน้าด้านเทคนิคของ WHO ด้านการรับมือโควิด-19 กล่าว

-- นายจอห์น ดริสคอลล์ นักวิเคราะห์จากบริษัท JTD Energy Services คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากความต้องการพลังงานที่สูงขึ้นในช่วงฤดูหนาว และจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ยังคงยึดมั่นในข้อตกลงด้านการผลิต

-- เมอร์ค แอนด์ โค ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่ของสหรัฐประกาศในวันนี้ว่า ทางบริษัทได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อจัดหายาโมลนูพิราเวียร์ (molnupiravir) ซึ่งเป็นยาเม็ดสำหรับรักษาโรคโควิด-19 ให้กับสิงคโปร์

สิงคโปร์ถือเป็นประเทศล่าสุดในเอเชียที่พยายามเข้าถึงยาโมลนูพิราเวียร์ หลังจากเมอร์คเปิดเผยผลการทดลองระบุว่า ยาโมลนูพิราเวียร์มีประสิทธิภาพในการต้านไวรัสโควิด-19 ทุกสายพันธุ์ ซึ่งรวมถึงสายพันธุ์เดลตา และยังสามารถลดความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือการเสียชีวิตลงได้มากถึง 50% สำหรับผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรง

ทั้งนี้ เมอร์คเตรียมยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐเพื่อขออนุมัติการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งหากได้รับการอนุมัติ ก็จะทำให้เมอร์คเป็นบริษัทแรกของโลกที่ผลิตและจำหน่ายยารักษาโควิด-19 แบบรับประทาน

นอกเหนือจากสิงคโปร์แล้ว ออสเตรเลียก็ได้สั่งซื้อยาโมลนูพิราเวียร์จากเมอร์ค ขณะที่ประเทศไทย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และมาเลเซีย ได้เจรจาเพื่อขอซื้อยาดังกล่าวแล้ว

-- ออสเตรเลียประสบความสำเร็จครั้งสำคัญในแผนระดมฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 หลังผู้ใหญ่ 80% ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 โดสแล้ว

กระทรวงสาธารณสุขได้เผยแพร่ข้อมูลล่าสุดที่ระบุว่า ชาวออสเตรเลียที่อายุ 16 ปีขึ้นไปราว 80.5% ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างน้อย 1 โดส และ 58.4% ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว

-- นายเอรีวัน ยูซอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของบรูไน ผู้ดำรงตำแหน่งทูตพิเศษประจำเมียนมา เปิดเผยว่า บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศสมาชิกทูตพิเศษประจำสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน กำลังพิจารณางดส่งคำเชิญให้กับหัวหน้าคณะรัฐประหารในเมียนมาสำหรับการประชุมสุดยอดของอาเซียนในเดือนนี้ เนื่องจากกองทัพเมียนยังไม่ได้ดำเนินการใด ๆ ตามแผนฟื้นฟูสันติภาพในเมียนมา

-- เทสโก้ ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของอังกฤษ ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไรปี 2564-2565 หลังรายงานผลกำไรและยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกที่เพิ่มขึ้น 16.6% แม้จะเผชิญปัญหาการขาดแคลนแรงงานและห่วงโซ่อุปทาน

-- ศาลสูงอินเดียมีคำสั่งให้หน่วยงานของรัฐบาลต้องจ่ายเงิน 672 ดอลลาร์ (50,000 รูปี) ให้กับผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 แต่ละราย เพื่อชดเชยความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับครอบครัว

อินเดียมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วประเทศ 449,260 ราย โดยผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ยอดดังกล่าวนั้นต่ำกว่าจำนวนที่แท้จริงมาก เนื่องจากอาจมีผู้เสียชีวิตอยู่ในเขตด้อยพัฒนาอีกนับล้านคน นอกจากนี้ อาจยังมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากตามเมืองใหญ่ต่าง ๆ รวมถึงกรุงนิวเดลีที่ไม่ได้รับการรายงาน เนื่องจากโรงพยาบาลขาดแคลนเตียงและออกซิเจน

-- นายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของเฟซบุ๊กวัย 37 ปี ออกมาปฏิเสธคำกล่าวหาของอดีตพนักงานที่ระบุว่า เฟซบุ๊กมุ่งแสวงหาแต่กำไรโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้งาน โดยระบุว่ารายงานดังกล่าว "บิดเบือนภารกิจและความตั้งใจของเฟซบุ๊ก"

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังฟรานเซส ฮอเกน อดีตผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ของเฟซบุ๊ก ได้ออกมาเปิดโปงพฤติกรรมของโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ต่อสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐวานนี้ โดยเธอให้การกับฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐว่า เฟซบุ๊กมุ่งสร้างกำไรมากกว่าที่จะสนใจความปลอดภัยของผู้ใช้งาน เนื่องจากอัลกอริทึมของเฟซบุ๊กมักจะแสดงโพสต์ที่มียอดการกดไลก์กดแชร์สูง ซึ่งในบางกรณีก็เป็นโพสต์ที่อาจเป็นอันตรายกับผู้ใช้งานได้

นายซัคเคอร์เบิร์กแถลงว่า "หากเราไม่สนใจที่จะต่อสู้กับเนื้อหาที่เป็นอันตรายจริงดังคำกล่าวอ้าง แล้วเหตุใดเราจึงจ้างคนจำนวนมากมาดูแลงานในส่วนนี้ ซึ่งมากกว่าบริษัทอื่น ๆ ในแวดวงเทคโนโลยี แม้แต่บริษัทที่ใหญ่กว่าเรา"

"ถ้าเราต้องการปิดบังผลลัพธ์ เหตุใดเราจึงกำหนดมาตรฐานในด้านความโปร่งใสที่สูงมาก และรายงานเกี่ยวกับสิ่งที่เรากำลังทำมาตลอด" นายซัคเคอร์เบิร์กเสริม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ