ชาวเซี่ยงไฮ้ส่วนใหญ่ยังถูกจำกัดให้อยู่แต่ในบ้าน แม้ทางการจีนได้เริ่มผ่อนปรนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 บ้างแล้วก็ตาม
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เจ้าหน้าที่ในนครเซี่ยงไฮ้เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า อาจจะเริ่มยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ในบางพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย. เป็นต้นไป แม้จะมีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มอีกกว่า 25,000 ราย เนื่องจากต้องการให้กิจกรรมต่าง ๆ ในเมืองกลับมาเดินหน้าได้หลังจากหยุดชะงักมากว่า 2 สัปดาห์
นายกู้ หงฮุย เจ้าหน้าที่ของนครเซี่ยงไฮ้ระบุว่า ทางเมืองได้จัดประเภทสถานที่อยู่อาศัยออกเป็น 3 กลุ่มเสี่ยง เพื่อให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีผู้ติดเชื้อมาเป็นเวลา 2 สัปดาห์ติดกันสามารถกลับไปทำ "กิจกรรมตามความเหมาะสม" ในย่านนั้นได้
นายกู้ยังเพิ่มเติมว่า เซี่ยงไฮ้ได้แบ่งเมืองออกเป็น 7,624 เขตที่จะยังคงล็อกดาวน์อยู่ โดยมี 2,460 เขตอยู่ภายใต้สถานะ "ควบคุม" หลังจากไม่มีผู้ติดเชื้อ 1 สัปดาห์ และ 7,565 เขตจะเป็น "พื้นที่ป้องกัน" หลังไม่พบผู้ติดเชื้อเป็นเวลา 2 สัปดาห์
การให้คำมั่นดังกล่าวช่วยให้ประชากรในเมืองเซี่ยงไฮ้คลายกังวลลง หลังจากที่มาตรการสกัดการระบาดส่งผลให้ขาดแคลนอาหารและเวชภัณฑ์ในช่วงล็อกดาวน์
อย่างไรก็ดี ทางการจีนยังปฏิบัติตามนโยบายโควิดเป็นศูนย์ หรือ Covid Zero อย่างเคร่งครัด โดยนายหลี่ เฉียง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งเซี่ยงไฮ้ เปิดเผยว่าเซี่ยงไฮ้จะยังคงใช้มาตรการล็อกดาวน์ต่อไปเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด และพร้อมที่จะสั่งล็อกดาวน์ครั้งใหม่ หากพบว่าพื้นที่ที่ผ่อนปรนมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นใหม่แม้แต่รายเดียว
การแพร่ระบาดอย่างหนักของโรคโควิด-19 ส่งผลให้กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลทุกคนที่ไม่ได้อยู่ในส่วนของงานฉุกเฉินและครอบครัวของพวกเขาเดินทางออกจากนครเซี่ยงไฮ้ของจีน เนื่องจากโรคโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนักในพื้นที่ดังกล่าว นอกจากนี้ ยังได้ออกคำแนะนำให้พลเมืองชาวอเมริกันทบทวนการเดินทางไปยังประเทศจีนด้วย
"ขอให้พลเมืองชาวอเมริกันทบทวนการเดินทางไปยังประเทศจีน เนื่องจากขณะนี้จีนได้บังคับใช้มาตรการควบคุมพื้นที่ในท้องถิ่นแบบเบ็ดเสร็จ ซึ่งรวมถึงการใช้มาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19"
"ด้วยเหตุนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐจึงขอแนะนำว่า พลเมืองชาวอเมริกันไม่ควรเดินทางไปยังฮ่องกง, มณฑลจี้หลิน และนครเซี่ยงไฮ้ เนื่องจากมีการใช้มาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมโรคโควิด-19 ซึ่งรวมถึงความเสี่ยงที่ผู้ปกครองและเด็ก ๆ จะถูกแยกจากกัน หากท่านที่ต้องการจะเดินทางไปยังฮ่องกงก็ขอให้ทบทวนด้วยเช่นกัน เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวมีการบังคับใช้กฎหมายท้องถิ่นโดยพลการ"