ผู้นำธุรกิจคริปโทเคอร์เรนซีกว่า 40 รายได้ร้องขอให้สหภาพยุโรป (EU) งดออกข้อกำหนดให้บริษัทคริปโทฯ ต้องเปิดเผยรายละเอียดการทำธุรกรรม และพยายามลดระดับข้อจำกัดของภาครัฐที่หวังควบคุมแพลตฟอร์มคริปโทฯ ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น ในขณะที่ EU รวมถึงประเทศและเขตอำนาจศาลอื่น ๆ ทั่วโลกเดินหน้าใช้มาตรการควบคุมภาคคริปโทฯ โดย EU นำหน้าสหรัฐและอังกฤษในการพัฒนาชุดข้อกำหนดสำหรับกำกับดูแลอุตสาหกรรมคริปโทฯ ที่มีมูลค่าสูงถึง 2.1 ล้านล้านดอลลาร์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในจดหมายที่ส่งไปยังรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของ 27 ประเทศสมาชิก EU เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ภาคธุรกิจคริปโทฯ ได้ขอให้ผู้กำหนดนโยบายรับรองว่า กฎระเบียบของพวกเขาจะไม่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ปัจจุบันภายใต้คณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงินและการสนับสนุนด้านการเงินกับการก่อการร้าย (Financial Action Task Force ? FATF) ที่กำหนดมาตรฐานสำหรับรับมือกับการฟอกเงิน
อนึ่ง เมื่อเดือนที่ผ่านมา ผู้กำหนดนโยบายของ EU ได้โหวตสนับสนุนมาตรการใหม่ที่ออกมาเพื่อกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งรวมถึงการติดตามเส้นทางการทำธุรกรรมด้วยบิตคอยน์และสกุลเงินคริปโทฯ อื่น ๆ
กฎระเบียบต่าง ๆ กำหนดให้บริษัทคริปโทฯ ต้องรวบรวมและบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ทำให้บริษัทคอยน์เบส โกลบอล อิงค์ ของสหรัฐ ออกมาคัดค้านกฎดังกล่าว
เพื่อตอบสนองต่อการลงมติเมื่อเดือนที่ผ่านมา ผู้นำอุตสาหกรรมและองค์กรคริปโทฯ ของยุโรป 46 รายระบุในจดหมายว่า มาตรการดังกล่าว "จะทำให้เจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลทุกรายอยู่ในความเสี่ยง" เนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดการทำธุรกรรมและรายละเอียดวอลเล็ตสู่สาธารณะจะลดความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ถือคริปโทฯ