นายเดวิด อเดลแมน อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐระบุว่า การยกเลิกการจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนจะช่วยลดเงินเฟ้อ 1% ในสหรัฐ และฟื้นฟูความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐในศึกเลือกตั้งกลางเทอมที่มีกำหนดจัดขึ้นในเดือนพ.ย.นี้
"เงินเฟ้อจะกลายเป็นวาระสำคัญอันดับหนึ่งสำหรับการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐในเดือนพ.ย." นายอเดลแมนกล่าวในรายการ "Squawk Box" ของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีในวันจันทร์ (20 มิ.ย.)
"แม้ท่านประธานาธิบดีไบเดนจะมีอำนาจที่จำกัดในการควบคุมเงินเฟ้อ แต่เขาก็มีเครื่องมือสำคัญอยู่ในมือ โดยเป็นความสามารถในการผ่อนปรนแรงกดดันต่อเศรษฐกิจสหรัฐและผู้บริโภคอเมริกันที่เกิดจากการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่ากว่า 3.7 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี" นายอเดลแมน ซึ่งรับตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสิงคโปร์ในยุคของอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามากล่าว
"นักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากต่างเห็นพ้องไปในทิศทางเดียวกันว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะปรับลดลง 1% จากการยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าจีน ซึ่งมีความหมายต่อผู้บริโภคอเมริกันอย่างล้นเหลือ"
สงครามการค้าของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กับจีนนั้นได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ออกเสียงชาวอเมริกันจากทั้งฝั่งที่สนับสนุนพรรคริพับลิกันและเดโมแครตในปี 2561 แต่นายอเดลแมนมองว่า นโยบายดังกล่าวหาประโยชน์ไม่ได้ในเชิงเศรษฐกิจและไม่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ทางการค้าอย่างมีนัยสำคัญ
"สงครามการค้าไม่เพียงแต่จะไม่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจจีนเท่านั้น แต่กลับส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐด้วย" นายอเดลแมนกล่าว
"ปธน.ไบเดนเริ่มตระหนักได้ในขณะที่ศึกเลือกตั้งใกล้เข้ามาทุกขณะว่า เศรษฐกิจคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง หากท่านประธานาธิบดีสามารถผ่อนคลายความกดดันได้ก็ควรทำ เพราะท้ายที่สุดแล้วเศรษฐกิจดีย่อมส่งผลต่อคะแนนนิยมทางการเมือง"