บริษัทวิดีโอเกมยักษ์ใหญ่ในเอเชียรุกซื้อกิจการหวังขยายตลาดใหม่

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า บริษัทเกมยักษ์ใหญ่ของเอเชีย เช่น โซนี่ เน็ตอีส และเทนเซ็นต์ กำลังเดินหน้ารุกซื้อกิจการและลงทุนอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความพยายามในการผลักดันไปสู่รูปแบบใหม่ ๆ และในกรณีของบริษัทจีนนั้นต้องการขยายกิจการออกสู่ต่างประเทศเพื่อลดผลกระทบด้านลบจากกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นภายในประเทศ

รายงานระบุว่า แต่ละบริษัทมีกลยุทธ์ที่แตกต่างกัน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทเน็ตอีสของจีนได้ซื้อกิจการของควอนติก ดรีม (Quantic Dream) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาเกมของในฝรั่งเศส โดยจะถือเป็นสตูดิโอเกมแห่งแรกของเน็ตอีสในยุโรป และเน็ตอีสยังได้จัดตั้งสตูดิโอเกมในญี่ปุ่นและสหรัฐด้วย

ด้านเทนเซ็นต์ ซึ่งดำเนินกลยุทธ์การลงทุนในสตูดิโอเกมขนาดเล็กทั่วโลกมานานหลายปี และบริษัทโซนี่ ต่างก็ได้เข้าซื้อหุ้นของบริษัทฟรอมซอฟต์แวร์ (FromSoftware) ผู้สร้างเกมเอลเดน ริง (Elden Ring)

นอกจากนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางโซนี่ระบุว่า บริษัทได้เข้าซื้อกิจการของบริษัทซาเวจ เกม สตูดิโอ (Savage Game Studios) ซึ่งพัฒนาเกมบนมือถือ โดยมีสำนักงานอยู่ที่กรุงเฮลซิงกิของฟินแลนด์ และกรุงเบอร์ลินของเยอรมนี

ทั้งนี้ กระแสการเข้าซื้อและควบรวมกิจการในธุรกิจเกมเริ่มขึ้นเมื่อช่วงต้นปี 2565 หลังไมโครซอฟท์เสนอซื้อกิจการของแอคติวิชัน บลิซซาร์ด (Activision Blizzard) ด้วยวงเงินสด 6.87 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อเดือนม.ค. และหลังจากนั้นไม่นาน ทางโซนี่ได้ประกาศแผนการที่จะซื้อกิจการของบริษัทบันจี้ อิงค์ (Bungie Inc) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาวิดีโอเกมเดสตินี้ (Destiny) และเกมเฮโล (Halo) ด้วยวงเงิน 3.6 พันล้านดอลลาร์