นายจางเผิง จ้าว ซีอีโอของบริษัทไบแนนซ์ (Binance) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่ที่สุดในโลก เรียกร้องให้มีการออกกฎระเบียบใหม่ที่มีเสถียรภาพและชัดเจนในอุตสาหกรรมคริปโทฯ หลังจากเกิดความวุ่นวายในแวดวงอุตสาหกรรมเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งรวมถึงการล้มละลายของบริษัทเอฟทีเอ็กซ์ (FTX)
นายจ้าวกล่าวในการประชุมผู้นำกลุ่ม G20 ที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซียว่า "เรากำลังอยู่ท่ามกลางอุตสาหกรรมใหม่ ซึ่งเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาเราได้เห็นความปั่นป่วนมากมายเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมนี้ เราต้องการกฎระเบียบที่ชัดเจนซึ่งสามารถปฏิบัติได้อย่างเหมาะสมและมีเสถียรภาพ"
การแสดงความเห็นของนาวจ้าวมีขึ้นในขณะที่บริษัทหลายแห่งในอุตสาหกรรมคริปโทฯกำลังวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนเพื่อรับมือกับการล้มละลายของบริษัทเอฟทีเอ็กซ์ของนายแซม แบงค์แมน-ฟรีด
เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา เอฟทีเอ็กซ์ออกแถลงการณ์ระบุว่า ทางบริษัทได้ยื่นเรื่องต่อศาลสหรัฐตามมาตรา 11 เพื่อขอการพิทักษ์ทรัพย์จากภาวะล้มละลาย โดยมีบริษัทในเครือของเอฟทีเอ็กซ์ราว 130 บริษัทที่เข้าสู่กระบวนการล้มละลาย ซึ่งรวมถึงบริษัทอลาเมดา รีเสิร์ช เอฟทีเอ็กซ์ได้กลายเป็นบริษัทที่ล้มละลายภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน จากเดิมที่มีสินทรัพย์มากกว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ท่ามกลางวิกฤตสภาพคล่องจากการที่ลูกค้าแห่ถอนเงิน อันเนื่องมาจากการที่ไบแนนซ์ถอนตัวจากข้อตกลงซื้อกิจการเอฟทีเอ็กซ์ ทั้งนี้ นายจ้าวระบุว่า "ผมคิดว่าบริษัทในอุตสาหกรรมคริปโทฯควรมีบทบาทในการปกป้องผู้บริโภคทุกคน ไม่ใช่หน้าที่ของหน่วยงานกำกับดูแลเพียงฝ่ายเดียว จริงอยู่ที่หน่วยงานกำกับดูแลมีบทบาทในส่วนนี้ แต่ความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้ไม่ได้เป็นของพวกเขาทั้ง 100%"
ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายจ้าวได้ทวีตข้อความว่า ไบแนนซ์ได้หยุดรับการฝากโทเค็น FTT ของเอฟทีเอ็กซ์บนแพลตฟอร์มของบริษัทแล้ว พร้อมทั้งเรียกร้องให้บริษัทคริปโทฯ รายอื่น ๆ ทำเช่นเดียวกัน