World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 1, 2022 08:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 700 จุดในวันพุธ หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.

-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวปาฐกถาว่าด้วยนโยบายการเงินและการคลัง ที่สถาบันบรู้กกิงส์เมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยระบุว่า เฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนธ.ค. ขณะเดียวกันก็เตือนว่า ภารกิจของเฟดในการต่อสู้กับเงินเฟ้อนั้นยังอีกยาวไกล และยังมีคำถามสำคัญหลายอย่างที่เฟดยังไม่ได้รับคำตอบ ซึ่งรวมถึงคำถามที่ว่าอัตราดอกเบี้ยจำเป็นต้องถูกปรับขึ้นไปสู่ระดับสูงสุดที่เท่าใดและใช้ระยะเวลานานเท่าใด

ข้อมูลจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า หลังจากนายพาวเวลส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในงานเสวนาดังกล่าวแล้ว นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 25% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนธ.ค. เทียบกับช่วงก่อนที่นายพาวเวลแถลงที่นักลงทุนให้น้ำหนักสูงถึง 75%

-- ซุน ชุนหลาน รองนายกรัฐมนตรีของจีนซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เปิดเผยว่า ความพยายามของจีนในการสกัดการแพร่ระบาดนั้นกำลังเข้าสู่ช่วงใหม่ เมื่อสายพันธุ์โอมิครอนลดความรุนแรงลงขณะที่ชาวจีนฉีดวัคซีนกันมากขึ้น ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลจีนอาจปรับเปลี่ยนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด หลังมีประชาชนประท้วงเป็นวงกว้าง

-- แบล็คร็อค ซึ่งเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยกลยุทธ์การลงทุนในปี 2566 โดยระบุว่า ทางบริษัทจะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารและพลังงาน เนื่องจากคาดว่าหุ้นทั้ง 2 กลุ่มจะมีผลประกอบการที่ดี

อย่างไรก็ดี แบล็คร็อคจะลดน้ำหนักการลงทุนในพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลยุโรป รวมทั้งตราสารหนี้สกุลเงินตลาดเกิดใหม่

-- Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมทั่วโลกมีจำนวน 647,611,736 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ระดับ 6,639,221 ราย

สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (100,532,711) รองลงมาคืออินเดีย (44,673,379)

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.9% ในไตรมาสดังกล่าว สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 2.6% และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.7%

การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 3 ได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง รวมทั้งการลดลงของตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐ

การเปิดเผยตัวเลข GDP ดังกล่าวช่วยคลายความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ หลังจากเศรษฐกิจหดตัว 1.6% ในไตรมาส 1 และ 0.6% ในไตรมาส 2 ซึ่งทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค

ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 127,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 190,000 ตำแหน่ง หลังจากพุ่งขึ้น 239,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค.

ภาคบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 213,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ขณะที่ภาคการผลิตมีการจ้างงานลดลง 86,000 ตำแหน่ง

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน โดยลดลง 4.6% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีลดลง 5.0%

เมื่อเทียบรายปี ดัชนีทรุดตัวลง 37.0% ในเดือนต.ค.

การทำสัญญาขายบ้านได้รับผลกระทบจากราคาบ้านที่พุ่งสูง และการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง

สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลง 353,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 10.3 ล้านตำแหน่งในเดือนต.ค. และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ตัวเลขการจ้างงานลดลงสู่ระดับ 6 ล้านตำแหน่ง

ตัวเลขการปลดออกจากงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.38 ล้านตำแหน่ง ส่วนตัวเลขการลาออกจากงานโดยสมัครใจลดลงสู่ระดับ 4.03 ล้านราย

ทั้งนี้ ตัวเลข JOLTS นับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสนใจ โดยมองว่าเป็นมาตรวัดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยในการพิจารณานโยบายการเงิน และอัตราดอกเบี้ยของเฟด

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ เอสแอนด์พี โกลบอล จะรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้าย ของฝรั่งเศส เยอรมนี และยูโรโซน เวลา 15.50 น., 15.55 น. และ 16.00 น. ตามเวลาไทย ต่อด้วยของสหราชอาณาจักร เวลา 16.30 น.

ทางการสหรัฐจะรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และรายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนต.ค. เวลา 20.30 น. ต่อด้วยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนพ.ย.จากเอสแอนด์พี โกลบอล เวลา 21.45 น. และดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เช่นเดียวกับการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนต.ค. เวลา 22.00 น.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ