World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 17, 2023 07:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มปรับตัวผันผวนในวันนี้หลังการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลกชะงักงันก่อนการรายงานผลประกอบการของธนาคารต่าง ๆ ในสัปดาห์นี้ โดยโกลด์แมน แซคส์และมอร์แกน สแตนลีย์จะรายงานผลประกอบการในวันนี้ ซึ่งจะบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจโลก และความแข็งแกร่งของผลกำไรของภาคธุรกิจ

-- ไพรซ์วอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส (PwC) เปิดเผยผลสำรวจความเห็นของบรรดาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ทั่วโลก โดยระบุว่า ซีอีโอส่วนใหญ่ (73%) ที่เข้าร่วมการสำรวจในครั้งนี้คาดการณ์ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลงในปี 2566 ซึ่งถือเป็นมุมมองต่อเศรษฐกิจโลกที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ PwC เริ่มทำผลสำรวจในปี 2554

PwC ได้เปิดเผยผลสำรวจครั้งล่าสุดนี้ในที่ประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันจันทร์ (16 ม.ค.) โดยการสำรวจจัดทำขึ้นภายใต้หัวข้อ "PwC Global CEO Survey" ซึ่งสำรวจความเห็นของบรรดาซีอีโอจำนวน 4,410 คน ใน 105 ประเทศและภูมิภาคในช่วงเดือนต.ค.-พ.ย. 2565

-- ยอดผู้เสียชีวิตจากการที่รัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มอะพาร์ตเมนต์ในเมืองดนิโปร (Dnipro) ทางตะวันออกของยูเครน พุ่งขึ้นเป็น 40 รายแล้วในขณะนี้ และยังมีผู้สูญหายอีกเป็นจำนวนมาก โดยเหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นการโจมตีพลเรือนที่รุนแรงที่สุดภายใต้ปฏิบัติการระยะเวลา 3 เดือนของรัสเซียที่พุ่งเป้ายิงขีปนาวุธถล่มเมืองต่าง ๆ ของยูเครน

ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนระบุว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิตจำนวนมาก และการกระทำของรัสเซียไม่ต่างจากการก่อการร้าย และนี่จึงเป็นเหตุผลที่ยูเครนต้องการอาวุธเพิ่มเติมเพื่อที่จะต่อกรกับรัสเซียตลอดระยะเวลา 11 เดือนนับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครน แม้รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาเจตนาโจมตีพลเรือนก็ตาม

-- เจ้าหน้าที่เนปาลเปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินตกเพิ่มขึ้นเป็น 70 รายแล้ว ขณะที่สูญหาย 2 ราย

ทั้งนี้ เครื่องบินของสายการบินเยติแอร์ไลน์ พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือรวม 72 รายประสบอุบัติเหตุวานนี้ โดยตกห่างจากสนามบินโปขรา ทางภาคกลางของประเทศออกไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร ซึ่งเป็นโศกนาฏกรรมทางอากาศครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 30 ปีของเนปาล

-- นักวิเคราะห์จากแบงก์ ออฟ อเมริกา คาดว่า ราคาทองจะพุ่งทะลุ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ การที่เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่า และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลง ซึ่งดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น ส่วนการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ จะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

-- ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่จีนทำการเปิดเผยได้ต่ำกว่าความเป็นจริงอย่างมาก ทั้งนี้ คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) เปิดเผยในช่วงสุดสัปดาห์ว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในโรงพยาบาลต่าง ๆ มีจำนวน 59,938 ราย ณ วันที่ 12 ม.ค. อย่างไรก็ดี นายจ้าง ซู-เฟิง หัวหน้าฝ่ายระบาดวิทยาของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียงยอดของภูเขาน้ำแข็ง โดยมีจำนวนไม่ถึง 7% ของจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด ซึ่งคาดว่าอยู่ที่ราว 900,000 คน

-- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวว่า สงครามที่ดำเนินอยู่ในยูเครนยังคงเป็นไปตามแผน

"พลวัตของสงครามยังคงมีทิศทางบวก ทุกอย่างยังคงดำเนินไปตามแผนของกระทรวงกลาโหมและคณะเสนาธิการทหารของรัสเซีย และผมคาดหวังว่าทหารของเราจะสร้างความพึงพอใจให้เราอีกครั้งหนึ่งด้วยผลงานในสนามรบ" ปธน.ปูตินกล่าว

ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงในวันศุกร์ว่า กองกำลังรัสเซียสามารถยึดเมืองโซลดาร์ทางตะวันออกของแคว้นโดเนตสก์ ขณะที่ยูเครนปฏิเสธรายงานดังกล่าว

-- ผลการสำรวจพบว่า หัวหน้านักวิเคราะห์ถึง 2 ใน 3 ที่เข้าร่วมการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ในสัปดาห์นี้ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะเผชิญภาวะถดถอยในปีนี้

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้ ขณะที่ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเป็นปัจจัยส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก

ทั้งนี้ หัวหน้านักวิเคราะห์ 22 รายจากองค์กรระหว่างประเทศที่เข้าร่วมการประชุม ซึ่งรวมถึงกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ตอบแบบสำรวจดังกล่าว ซึ่งใช้ชื่อว่า "Chief Economists Outlook"

-- นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.00% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 2 ก.พ.

หาก BoE ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมดังกล่าวตามคาด ก็จะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 10 ติดต่อกัน

ก่อนหน้านี้ BoE ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 3.50% ในการประชุมวันที่ 15 ธ.ค.2565 ด้วยคะแนนเสียงไม่เป็นเอกฉันท์ โดยกรรมการ 6 รายลงมติให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ขณะที่ 1 รายให้ปรับขึ้น 0.75% ส่วนอีก 2 รายมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ย

-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่เปิดเผยในวันนี้ ออสเตรเลียเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนม.ค.จากเวสต์แพค, สิงคโปร์เปิดเผยยอดส่งออกและดุลการค้าเดือนธ.ค., จีนเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค., ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค., การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนธ.ค., อัตราว่างงานเดือนธ.ค. และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2565, เยอรมนีเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค.และดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนม.ค.จากสถาบัน ZEW, อังกฤษเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนพ.ย., อียูเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนม.ค.จากสถาบัน ZEW และสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนม.ค.จากเฟดนิวยอร์ก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ