สวอท์ช กรุ๊ป (Swatch Group) ผู้ผลิตนาฬิกาสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์เปิดเผยในวันนี้ (24 ม.ค.) หลังจากรายงานยอดขายในปี 2565 เพิ่มขึ้น 2.5% ว่า บริษัทมีความเห็นในเชิงบวกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของตลาดจีนจากผลกระทบของโรคโควิด-19 และชาวจีนกลับมาเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สวอท์ช ผู้ผลิตนาฬิกาแบรนด์ระดับไฮเอนด์อย่าง โอเมกา (Omega), ทิสโซต์ (Tissot) และ ลองจิ้นส์ (Longines) รวมถึงนาฬิกาพลาสติกในตลาดมวลชนนั้นเปิดเผยว่า ยอดขายของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 7.49 พันล้านฟรังก์ (8.13 พันล้านดอลลาร์)
ส่วนยอดขายแบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (Constant Currencies) พุ่งขึ้น 4.6% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของบริษัทที่เป็นเลขสองหลัก ซึ่งเป็นผลมาจากการชะลอตัวครั้งใหญ่ในจีนในปี 2565 เนื่องจากการล็อกดาวน์เมืองต่าง ๆ เพื่อควบคุมเชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดนั้น ทำให้ยอดขายลดลงอย่างมาก
ถึงกระนั้น สวอท์ชยังคงเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดหลักสำหรับกลุ่มสินค้าหรูหราโดยรวม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าของสวอทช์ กรุ๊ปที่มียอดขายในจีนราว 1 ใน 3 ตามการประมาณการของธนาคาร Zuercher Kantonalbank
"ฝ่ายบริหารคาดการณ์ว่ายอดขายจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2566 ในทุกภูมิภาคและทุกส่วน โดยหลังสิ้นสุดมาตรการโควิด การบริโภคฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงแค่ในจีนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงตลาดโดยรอบของเขตบริหารพิเศษฮ่องกงและมาเก๊าด้วย นอกจากนี้ การยกเลิกข้อจำกัดด้านการเดินทางในจีนจะทำให้ยอดขายในแหล่งท่องเที่ยวฟื้นตัวกลับมาด้วยเช่นกัน" สวอท์ช กรุ๊ประบุ