นินเทนโด บริษัทเกมยักษ์ใหญ่สัญชาติญี่ปุ่นประกาศปรับลดแนวโน้มกำไรและรายได้ตลอดทั้งปี ตอกย้ำความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเครื่องเล่นเกมคอนโซล สวิตซ์ (Switch) ที่เริ่มตกยุคและสภาพแวดล้อมของวงการเกมทั่วโลก
บริษัทนินเทนโดระบุว่า ยอดขายเครื่องเล่นเกมคอนโซลไปไม่ถึงเป้าหมายในช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยความผันผวนของเงินตราต่างประเทศถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ถ่วงยอดขายเช่นกัน ทำให้ขณะนี้นินเทนโดคาดการณ์ว่า รายได้จากการดำเนินงานในปีงบประมาณซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมี.ค.ปีนี้จะอยู่ที่ 4.8 แสนล้านเยน (3.6 พันล้านดอลลาร์) ลดลงมาจาก 5 แสนล้านเยนในปีก่อนหน้า และยอดขายสุทธิมีแนวโน้มอยู่ที่ 1.6 ล้านล้านเยน ลดลงมาจาก 1.65 ล้านล้านเยน
ก่อนหน้านี้นักลงทุนจำนวนมากคาดการณ์ว่า นินเทนโดจะเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการจากผลพวงของยอดขายเกมในซีรีส์โปเกมอนภาคล่าสุดอย่างโปเกมอน สการ์เล็ต (Pokemon Scarlet) และ โปเกมอน ไวโอเล็ต (Pokemon Violet) ที่กลายเป็นเกมที่ขายได้รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท
ทั้งนี้ นินเทนโดได้รายงานกำไรจากการเดินงานที่ 1.902 แสนล้านเยนและยอดขาย 6.382 แสนล้านเยนในไตรมาสที่สิ้นสุดเดือนธ.ค. 2565 ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์เฉลี่ยทั้งคู่
ด้านนายฮิเดกิ ยาซุดะ นักวิเคราะห์จากบริษัทโตโย ซีเคียวริตี้ส์ระบุว่า "เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจอย่างยิ่งที่ผลประกอบการออกมาอ่อนแอเช่นนี้ โดยยอดขายในช่วงเทศกาลวันหยุดช่วงสิ้นปีบ่งชี้ว่า ยอดขายเครื่องเล่นเกมของนินเทนโดไม่แข็งแกร่งเท่าที่ควร แม้จะมีอุปทานเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ยอดขายซอฟต์แวร์ลดลงตามไปด้วย เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า เครื่องเล่มเกมคอนโซลสวิตซ์เริ่มเข้าสู่ช่วงขาลงแล้ว"