World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Monday March 20, 2023 08:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ยูบีเอส (UBS) ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ ได้ตกลงเข้าซื้อกิจการธนาคารเครดิต สวิส ในวงเงิน 3 พันล้านฟรังก์สวิส (3.23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยหน่วยงานฝ่ายกำกับดูแลด้านการเงินของรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ได้เข้ามามีส่วนในการทำข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์นี้

การซื้อกิจการดังกล่าวเกิดขึ้นภายใต้การดำเนินงานร่วมกันระหว่างธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์, รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ และหน่วยงานกำกับดูแลตลาดการเงินของสวิตเซอร์แลนด์ โดยธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ได้ให้คำมั่นว่าจะจัดสรรเงินกู้ยืมจำนวนสูงถึง 1 แสนล้านฟรังก์ (1.08 แสนล้านดอลลาร์) เพื่อสนับสนุนการเทกโอเวอร์กิจการ ขณะที่รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ได้อนุมัติเงินค้ำประกันจำนวนสูงถึง 9 พันล้านดอลลาร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดความเสี่ยงให้กับยูบีเอส

-- ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้น 100 จุดในช่วงเช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคธนาคาร หลังจากยูบีเอส (UBS) ได้ตกลงเข้าซื้อกิจการธนาคารเครดิต สวิส

ณ เวลา 06.16 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้น 138 จุด หรือ +0.43% แตะที่ 32,209 จุด

-- นางแคริน เคลเลอร์-ซุตเทอร์ รัฐมนตรีคลังสวิตเซอร์แลนด์ได้จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเพื่อชี้แจงกรณีธนาคารยูบีเอสเข้าซื้อกิจการธนาคารเครดิต สวิส โดยกล่าวว่า การที่ยูบีเอสเข้าซื้อกิจการของเครดิต สวิสภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์นั้น ไม่ใช่การอุ้มกิจการ และเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในสถานการณ์ที่ยากลำบากในขณะนี้

"เราสามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดได้แล้ว นี่ไม่ใช่การอุ้มกิจการของเครดิต สวิส และการที่ยูบีเอสเข้าเทกโอเวอร์กิจการของเครดิต สวิส ถือเป็นทางออกในเชิงธุรกิจ"

"ธนาคารเครดิต สวิสมีความสำคัญในเชิงระบบ หากธนาคารแห่งนี้ล้มละลายก็จะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ทั้งต่อตลาดการเงินของสวิตเซอร์แลนด์เองและตลาดการเงินทั่วโลก" นางเคลเลอร์-ซุตเทอร์กล่าว

-- แฟลกสตาร์ แบงก์ (Flagstar Bank) ซึ่งเป็นธนาคารในเครือของนิวยอร์ก คอมมูนิตี้ บันคอร์ป อิงค์ (New York Community Bankcorp Inc) ได้บรรลุข้อตกลงกับหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐ เพื่อเข้าซื้อสินทรัพย์ซึ่งประกอบด้วยเงินฝากและเงินกู้ ของธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์ (Signature Bank - SB) ซึ่งถูกสั่งปิดกิจการในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา

บรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) ระบุว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้แฟลกสตาร์ แบงก์ สามารถรับช่วงการดำเนินการเงินฝากและเงินกู้ทั้งหมดในพอร์ท รวมทั้งสาขาธนาคารทั้ง 40 แห่งของซิกเนเจอร์ แบงก์ และธนาคารสาขาเหล่านี้จะยังคงดำเนินงานตามปกติ

-- ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีไว้ที่ระดับ 3.65% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีที่ 4.30% ในวันนี้ ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีของจีนเป็นดัชนีวัดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของภาคเอกชน ส่วนอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีเป็นดัชนีวัดทิศทางอัตราดอกเบี้ยของภาคครัวเรือน ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเพื่อการกู้จำนอง

-- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เดินทางเยือนเมืองมาริอูโปลในยูเครนซึ่งรัสเซียเข้ายึดครองมานานกว่า 10 เดือน หลังจากที่เป็นสมรภูมิความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดแห่งหนึ่ง

ทำเนียบเครมลินแถลงว่า ปธน.ปูตินเดินทางไปยังเมืองมาริอูโปลด้วยเฮลิคอปเตอร์ จากนั้นได้ขับรถยนต์ด้วยตัวเองไปตามท้องถนนในเมืองเพื่อเยี่ยมเยือนสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงตรวจความคืบหน้าของงานก่อสร้างเพื่อฟื้นฟูเมือง และได้พูดคุยกับชาวบ้านในท้องถิ่นด้วย

-- กลุ่มที่ปรึกษาขององค์การอนามัยโลก (WHO) เรียกร้องให้จีนเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับต้นกำเนิดของโรคโควิด-19 หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลใหม่ผ่านฐานข้อมูลระหว่างประเทศเป็นระยะเวลาสั้น ๆ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กลุ่มที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์ว่าด้วยต้นกำเนิดของเชื้อก่อโรคชนิดใหม่ (SAGO) ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ WHO แถลงว่า ผลการวิเคราะห์ลำดับพันธุกรรมของเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ครั้งใหม่ รวมถึงข้อมูลจีโนมเพิ่มเติมที่ได้มาจากตัวอย่างจากตลาดค้าสัตว์มีชีวิตในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เมื่อปี 2563 ได้ถูกอัปโหลดไปยังฐานข้อมูลสากล GISAID โดยคณะนักวิทยาศาสตร์จีนเมื่อช่วงต้นปีนี้ ทำให้นักวิจัยในประเทศอื่น ๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลได้

ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่า จิ้งจอกแร็กคูน (raccoon dog) ที่ถูกนำมาขายในตลาดอาจเป็นพาหะของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งติดต่อสู่มนุษย์ในท้ายที่สุด อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวได้ถูกจำกัดการเข้าถึงในเวลาต่อมา เพื่อรอการอัปเดตข้อมูลเพิ่มเติมโดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน

-- กระทรวงการคลังจีนสั่งปรับบริษัทดีลอยท์ซึ่งเป็นบริษัทตรวจสอบบัญชีเป็นเงิน 211.9 ล้านหยวน (30.8 ล้านดอลลาร์) เนื่องจากมีความบกพร่องในการประเมินคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทไชน่า หัวหรง แอสเซต แมเนจเมนต์ (China Huarong Asset Management)

กระทรวงฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า ดีลอยท์ในกรุงปักกิ่งจะถูกระงับการดำเนินงานเป็นเวลา 3 เดือนด้วย

บริษัทไชน่า หัวหรงและบริษัทลงทุนในเครือได้ถูกสั่งปรับ เนื่องจากมีความบกพร่องในการกำกับดูแลภายใน, ความล้มเหลวในการควบคุมความเสี่ยง และความไม่ถูกต้องอย่างรุนแรงของข้อมูลบัญชีนับตั้งแต่ปี 2557-2562


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ