นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเตือนว่า สหรัฐอาจจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ภายในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ ซึ่งเร็วกว่าที่รัฐบาลและนักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้
นางเยลเลนได้ส่งจดหมายถึงนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันจันทร์ (1 พ.ค.) โดยเตือนว่า ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับรายได้จากการจัดเก็บภาษีของรัฐบาลนั้น ทำให้กระทรวงการคลังสามารถประเมินได้ว่าทางกระทรวงอาจจะผิดนัดชำระหนี้ตามพันธกรณีทางกฎหมายภายในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ หากสภาคองเกรสไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้หรือระงับเพดานหนี้ก่อนเส้นตายในวันดังกล่าว
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า การคาดการณ์กำหนดเส้นตายของการผิดนัดชำระหนี้ในวันดังกล่าวนั้น เร็วกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ โดยโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ล่าสุดว่ารัฐบาลสหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ในช่วงปลายเดือนก.ค. และคาดว่ารายได้จากการจัดเก็บภาษีที่น้อยเกินคาดอาจจะทำให้สหรัฐผิดนัดชำระหนี้เร็วกว่านั้นอีก
การยื่นจดหมายดังกล่าวของนางเยลเลนมีขึ้นไม่ถึงสัปดาห์หลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 217 ต่อ 215 ผ่านร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐเมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยปัจจุบันเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐอยู่ที่ระดับ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี คาดว่าร่างกฎหมายดังกล่าวอาจจะไม่ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา และประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะใช้สิทธิ์วีโต (veto) เพื่อคัดค้านร่างกฎหมายดังกล่าวหากผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา เนื่องจากร่างกฎหมายฉบับนี้มีการพ่วงข้อเสนอให้รัฐบาลสหรัฐลดการใช้จ่ายในช่วง 10 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ เพดานหนี้คือจำนวนเงินทั้งหมดที่รัฐบาลสหรัฐได้รับอนุญาตให้ทำการกู้ยืมเพื่อให้รัฐบาลสามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสวัสดิการด้านประกันสังคมและด้านสุขภาพ, ดอกเบี้ยตราสารหนี้ของรัฐบาล และการใช้จ่ายอื่น ๆ
ที่ผ่านมานั้น นางเยลเลนได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งปรับเพิ่มเพดานหนี้ โดยเตือนว่า หากสภาคองเกรสไม่อนุมัติการเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลและนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้ ก็จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับหายนะ และจะยิ่งทำให้อัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้นในช่วงหลายปีข้างหน้า
"การผิดนัดชำระหนี้จะส่งผลให้เกิดหายนะทางด้านเศรษฐกิจและการเงิน การผิดนัดชำระหนี้จะส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมพุ่งขึ้นเป็นเวลานาน และสร้างความเสียหายต่อการลงทุนในอนาคต หากสภาคองเกรสไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้ ภาคธุรกิจของสหรัฐจะเผชิญกับภาวะตลาดสินเชื่อที่ถดถอยลง และรัฐบาลอาจจะไม่สามารถจ่ายค่าตอบแทนให้กับครอบครัวของเหล่าทหารและผู้สูงอายุที่ต้องพึ่งพาเงินประกันสังคม ด้วยเหตุนี้ สภาคองเกรสจำเป็นต้องลงมติปรับเพิ่มเพดานหนี้หรือระงับเพดานหนี้ และควรเร่งดำเนินการโดยไม่มีเงื่อนไข และไม่ควรรอจนนาทีสุดท้าย" นางเยลเลนกล่าวในการประชุมกับกลุ่มผู้บริหารธุรกิจในกรุงวอชิงตันเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา