เศรษฐกิจที่ซบเซาของจีนได้ทำให้การหางานเป็นเรื่องยากขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อบรรดานักศึกษาจบใหม่เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงกลุ่มคนในช่วงวัย 30 ปี อีกด้วย โดยพวกเขาเผชิญกับความความเสี่ยงที่จะถูกเลิกจ้าง และโอกาสในการหางานใหม่ก็เป็นเรื่องที่ท้าทายมากยิ่งขึ้นเช่นกัน
สำนักข่าวนิกเกอิ รายงานว่า นายจ้าว (นามสมมุติ) ชายหนุ่มวัย 35 ปี ที่เกิดในปี 2531 จากเมืองฝอซาน มณฑลกวางตุ้ง กล่าวว่าถูกปฏิเสธจ้างงาน เนื่องจากมีอายุมากเกินไป โดยนายจ้าวเปิดเผยว่าผู้สัมภาษณ์งานได้แจ้งแก่เขาว่า "เรากำลังต้องการคนที่เกิดหลังปี 2533 และไม่สามารถเสนอตำแหน่งงานให้กับคุณได้ในขณะนี้"
นายจ้าวมีประสบการณ์เคยทำงานในบริษัทผลิตรถยนต์และบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์มาแล้วหลายแห่ง เขาลาออกจากงานเมื่อฤดูใบไม้ผลิปี 2566 ด้วยความหวังว่าจะหางานที่มีรายได้สูงกว่า แต่แม้ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะได้รับประโยชน์อย่างมากจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในจีน และนายจ้าวก็ส่งใบสมัครงานให้กับบริษัทต่าง ๆ เป็นจำนวนหลายแห่ง แต่ไม่ได้รับการตอบกลับใด ๆ
ผลสำรวจที่จัดทำโดยจ้าวผิน ซึ่งเป็นบริษัททรัพยากรบุคคล ในเดือนเมษายน 2566 พบว่า พนักงาน 85% แสดงความกังวลเกี่ยวกับการเผชิญกับอุปสรรคในการหางานหรือการรักษาตำแหน่งงานที่ทำอยู่ เมื่ออายุเกิน 35 ปี โดยกลุ่มบุคคลที่ทำงานในอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ต การเงิน และยานยนต์ มีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ ผู้คนที่อยู่ในช่วงวัย 30 ปี ตอนปลาย มักจะมีรายจ่ายในครัวเรือนสูงขึ้น สาเหตุหลักมาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การดูแลเด็ก โดยน.ส.ฟ่าน ซึ่งรับผิดชอบในการจ้างพยาบาลที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใกล้กับกรุงปักกิ่ง กล่าวว่า โรงพยาบาลได้กำหนดเพดานอายุในการจ้างงาน เนื่องจากในฐานะนายจ้าง พวกเขาไม่สามารถช่วยจ่ายเงินสงเคราะห์การเลี้ยงดูเด็กได้