World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Friday January 19, 2024 09:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้นบริษัทเทคโนโลยีและบริษัทผลิตชิปกลับมาโดดเด่นอีกครั้งและเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นสหรัฐฟื้นตัวในวันพฤหัสบดี (18 ม.ค.) โดยหุ้นแอปเปิ้ล พุ่งขึ้น 3.3% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค. 2566 หลังจากนักวิเคราะห์ของแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นแอปเปิ้ลขึ้นสู่ระดับ "Buy" จากเดิมที่ระดับ "Neutral" พร้อมกับคาดการณ์ว่าราคาหุ้นแอปเปิ้ลยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นอีกมากกว่า 20% ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า

ส่วนหุ้นไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง โค (TSMC) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปสัญญาจ้างรายใหญ่ของโลกและจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ ทะยานขึ้นเกือบ 10% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้ในไตรมาส 4/2566 ที่สูงเกินคาด พร้อมกับคาดการณ์ว่ารายได้ในปีงบการเงิน 2567 จะพุ่งขึ้นกว่า 20% โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ชิปที่ใช้สำหรับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ (AI)

-- ชาวอเมริกันเฮ! สภาคองเกรสสหรัฐลงมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวแล้วในวันพฤหัสบดี (18 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย โดยขณะนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวได้ถูกส่งไปยังประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพื่อลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป โดยงบประมาณชั่วคราวฉบับนี้จะช่วยให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐมีงบประมาณใช้จ่ายไปจนถึงช่วงต้นเดือนมี.ค. และสามารถหลีกเลี่ยงการถูกปิดดำเนินการหรือชัตดาวน์

นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากของวุฒิสภาสหรัฐสังกัดพรรคเดโมแครตได้ออกมาขานรับผลการลงมติดังกล่าว โดยระบุว่า "เรามีข่าวดีสำหรับชาวอเมริกัน เราจะไม่ต้องถูกชัตดาวน์ในวันศุกร์นี้"

-- นักลงทุนยังคงจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดย FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 56% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค. ซึ่งลดลงจากที่เคยให้น้ำหนักสูงกว่า 80% หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่ง

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 16,000 ราย สู่ระดับ 187,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือน และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 208,000 ราย

-- ราคาบิตคอยน์ร่วงลงสู่แนว 40,000 ดอลลาร์ในช่วงเช้านี้ เนื่องจากกระแสตอบรับการอนุมัติกองทุน Spot Bitcoin ETF แผ่วลงในเวลาอันรวดเร็ว

ข้อมูลจากเว็บไซต์คอยน์ เมทริกส์ (Coin Metrics) ระบุว่า ราคาบิตคอยน์ร่วงลงถึง 4.3% แตะระดับ 40,809 ดอลลาร์ และปรับตัวลงไปแล้วราว 11% นับตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.ซึ่งเป็นวันที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) มีมติอนุมัติให้กองทุน 11 แห่งสามารถจัดตั้งกองทุน Spot Bitcoin ETF

-- ตลาดคาดการณ์ว่า สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันและเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน โดยล่าสุดกองทัพสหรัฐใช้ปฏิบัติการโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนระลอกใหม่เมื่อช่วงเช้าตรู่วานนี้ เพื่อตอบโต้กบฏฮูตีที่ใช้โดรนโจมตีเรือบรรทุกสินค้าของสหรัฐในอ่าวเอเดนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า กองทัพปากีสถานได้เปิดฉากยิงขีปนาวุธโจมตีกลุ่มติดอาวุธแบ่งแยกดินแดนในจังหวัดซีสถานและบาโลชิสถานในประเทศอิหร่าน เพื่อตอบโต้อิหร่านที่โจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มจาอิช อัล-อัดล์ ซึ่งเป็นชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ที่เคลื่อนไหวโจมตีกองกำลังอิหร่านตามบริเวณชายแดน

-- ญี่ปุ่นเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (core CPI) ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสดและเป็นข้อมูลเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากระดับ 2.5% ในเดือนพ.ย.

อย่างไรก็ดี ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่า เงินเฟ้อของญี่ปุ่นอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมายของ BOJ ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 21

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินระยะเวลา 2 วันของ BOJ โดยจะเริ่มขึ้นในวันที่ 22 ม.ค. และจะแถลงผลการประชุมในวันที่ 23 ม.ค.

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยเยอรมนีจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค. ขณะที่อังกฤษจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนธ.ค. และสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ