อินเดียได้อนุมัติการสร้างโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ 3 แห่งซึ่งมีเม็ดเงินลงทุนมากกว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยความเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายของอินเดียในการเป็นศูนย์กลางที่สำคัญในการผลิตชิป
รัฐบาลอินเดียระบุในแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี (29 ก.พ.) ว่า "อินเดียมีขีดความสามารถที่แข็งแกร่งในการออกแบบชิปอยู่แล้ว ด้วยโรงงานใหม่เหล่านี้ ประเทศของเราจะพัฒนาศักยภาพในการผลิตชิป และเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ขั้นสูงจะได้รับการพัฒนาในอินเดีย"
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า อินเดียมีความมุ่งที่จะเป็นศูนย์กลางชิปหลักสำหรับการผลิตให้กับบรรดาบริษัทจากสหรัฐ ไต้หวัน และเกาหลีใต้ โดยรัฐบาลกำลังพยายามดึงดูดให้บริษัทต่างชาติเข้ามาเปิดกิจการในประเทศ
แถลงการณ์ระบุว่า ทาทา อิเล็กทรอนิกส์ (Tata Electronics) จะร่วมมือกับพาวเวอร์ชิป เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริง คอร์ป (Powerchip Semiconductor Manufacturing Corp) หรือ PSMC ของไต้หวัน เพื่อสร้างโรงงานผลิตชิปแห่งหนึ่งในเมืองโทเลระของรัฐคุชราตทางตะวันตกของอินเดีย โดยความร่วมมือนี้มีการลงทุนมูลค่าเกือบ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (9.1 แสนล้านรูปี)
PSMC จะนำเสนอบริการการออกแบบการและการผลิตชิปทั้งในส่วนของชิปลอจิกและชิปหน่วยความจำ โดยปัจจุบัน PSMC มีโรงงานผลิตชิป 6 แห่งในไต้หวัน
โรงงานดังกล่าวจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีชิป 28 นาโนเมตร ซึ่งเป็นชิปรุ่นเก่า โดยชิปนี้ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน ไปจนถึงด้านกลาโหม
ด้านทาทา เซมิคอนดักเตอร์ เอสเซมบลี แอนด์ เทสต์ พีวีที (Tata Semiconductor Assembly and Test Pvt) จะสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ในเมืองโมรีกอนของรัฐอัสสัมทางตะวันออกของอินเดียด้วยเงินลงทุน 3.26 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (2.7 แสนล้านรูปี) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงในท้องถิ่น รวมถึงฟลิปชิปและระบบบูรณาการในเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ สำหรับกลุ่มยานยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค
ขณะที่ซีจี พาวเวอร์ (CG Power) จะร่วมมือกับเรเนซัส อิเล็กทรอนิกส์ คอร์ปอเรชัน (Renesas Electronics Corporation) ของญี่ปุ่น สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (Stars Microelectronics) ของไทย ในการสร้างโรงงานแห่งที่ 3 ในเมืองสานันท์ของรัฐคุชราต โดยโรงงานแห่งนี้จะเน้นไปที่การผลิตชิปสำหรับผู้บริโภค อุตสาหกรรม ยานยนต์ และการจัดการพลังงาน และการลงทุนสำหรับโครงการนี้คาดว่าจะมีมูลค่าเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (7.6 หมื่นล้านรูปี)
ทั้งนี้ โรงงานทั้ง 3 แห่งจะเริ่มก่อสร้างภายใน 100 วันข้างหน้านับจากนี้