"สี จิ้นผิง" ชูวิสัยทัศน์ "พลังการผลิตใหม่" หวังพัฒนา-หนุนเศรษฐกิจจีนเติบโต

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 6, 2024 13:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ขณะที่จีนกำลังเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายปี ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้มอบหมายให้กระทรวงและรัฐบาลท้องถิ่นปฏิบัติตามวิสัยทัศน์ใหม่ได้แก่ การปลดปล่อย "พลังการผลิตใหม่" (new productive forces)

ในรายงานการทำงานประจำปีที่เปิดเผยต่อสภานิติบัญญัติจีนเมื่อวันอังคาร (5 มี.ค.) นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนให้คำมั่นว่าจะสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดครั้งใหม่ ผ่านการสนับสนุนภาคส่วนและอุตสาหกรรมที่กำลังพัฒนา รวมถึงภาคยานยนต์ไฟฟ้า วัสดุใหม่ การบินอวกาศเชิงพาณิชย์ เทคโนโลยีควอนตัม และวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต

คำว่า "พลังการผลิตใหม่" ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกโดยนายสีเมื่อเดือนก.ย.ปีที่ผ่านมาระหว่างการเดินทางไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ซึ่งเขาได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นของรูปแบบใหม่ ๆ ในการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยอาศัยนวัตกรรมในภาคส่วนที่ก้าวหน้า

วิสัยทัศน์นี้มุ่งเน้นที่ศักยภาพของการเติบโตในอนาคต โดยเปลี่ยนความสนใจจากความยากลำบากในปัจจุบันของจีนซึ่งรวมถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อ่อนแอ ผลกระทบจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงมีอยู่ และหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่น

แต่แนวทางที่จีนจะดำเนินการตามวิสัยทัศน์นี้ ซึ่งเป็นความท้าทายที่รัฐสภาจีนระบุเมื่อวันอังคาร (5 มี.ค.) นั้น ยังคงไม่ชัดเจน และความสำเร็จของความพยายามดังกล่าวก็ยังไม่แน่นอน

"ทิศทางของการส่งเสริมนวัตกรรมเทคโนโลยีนั้นถูกต้อง แต่ความกังวลของผมคือการทำอย่างไรจึงจะบรรลุเป้าหมาย เราควรพึ่งพาเส้นทางใดและกลไกของสถาบันใดในการขับเคลื่อนนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและเพิ่มผลผลิต" ที่ปรึกษาด้านนโยบายของจีนรายหนึ่งเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์

"ความจริงก็คือกลไกตลาดกำลังถดถอย และรัฐบาลนั้นมีอิทธิพลในการขับเคลื่อน"

จีนหวังว่าวิสัยทัศน์ "พลังการผลิตใหม่" จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับจีนในช่วงที่แรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงมาตรการของสหรัฐในการ "แยกตัว" หรือ "ลดความเสี่ยง" ได้จำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีจากต่างประเทศ

"การให้ความสำคัญกับพลังการผลิตใหม่ในวาระการประชุมนั้นสะท้อนความกังวลของบรรดาผู้นำที่ว่า จีนอาจตามหลังสหรัฐในด้านเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น ชิปขั้นสูงและปัญญาประดิษฐ์" เทียนเฉิน ซู นักเศรษฐศาสตร์จากอีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต (EIU) ในกรุงปักกิ่งระบุ

ขณะเดียวกัน นายหลี่ยังได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะลงทุนเพิ่มเติมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นขั้นตอนที่เขากล่าวว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์ในด้านต่าง ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ และการประยุกต์ใช้บิ๊กดาต้า

ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์หลายรายมองว่า การเพิ่มอุปสงค์ในประเทศเป็นลำดับความสำคัญเร่งด่วนที่สุดของจีน แต่นายหลี่กลับให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าวน้อยลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ