เงินเยนดีดตัวขึ้นแตะระดับ 155 เยนต่อดอลลาร์ในช่วงเที่ยงวันนี้ (29 เม.ย.) หลังจากดิ่งลงแตะระดับ 160 เยนต่อดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 34 ปีหรือนับตั้งแต่ปี 2533 ในช่วงเช้า ขณะที่เกิดกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า การที่เงินเยนดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วนั้น เกิดจากการที่รัฐบาลญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตรา
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดีเลอร์บางรายเชื่อว่า ทางการญี่ปุ่นได้เข้าแทรกแซงตลาดในวันนี้ หลังจากเงินเยนร่วงลงแตะระดับ 160 เยนต่อดอลลาร์ แต่เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังญี่ปุ่นปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับกรณีที่เงินเยนดีดตัวขึ้นแตะระดับ 155 เยนต่อดอลลาร์ หลังจากที่ร่วงลงแตะระดับ 160 เยนต่อดอลลาร์ในช่วงเช้า
ทางด้านสำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า นักวิเคราะห์จากคอมมอนเวลธ์ แบงก์ ออฟ ออสเตรเลียคาดการณ์ว่า กระทรวงการคลังญี่ปุ่นจะออกแถลงการณ์ในวันอังคาร (30 เม.ย.) เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับการแทรกแซงตลาดในระหว่างวันที่ 28 มี.ค.จนถึงวันที่ 26 เม.ย. อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์กล่าวว่าขณะนี้ยังไม่มีสื่อใดยืนยันว่ารัฐบาลญี่ปุ่นได้เข้าแทรกแซงตลาด
"เงินเยนผันผวนอย่างมากในวันนี้ ท่ามกลางสภาพคล่องในตลาดที่เบาบาง และเราคาดว่าเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นอาจจะไม่ออกมาชี้แจงใด ๆ ในวันนี้ เพราะตลาดการเงินญี่ปุ่นปิดทำการเนื่องในวันโชวะ"
ทั้งนี้ เยนอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 เม.ย.) และส่งสัญญาณว่านโยบายการเงินของ BOJ จะยังเป็นไปในลักษณะผ่อนคลาย ขณะที่นายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมวันดังกล่าวว่า BOJ ยังไม่เห็นหลักฐานที่บ่งชี้ว่า การอ่อนค่าของเงินเยนจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเงินเฟ้อในขณะนี้ แต่ BOJ จะยังคงจับตาสถานการณ์ต่าง ๆ ต่อไป
เงินเยนอ่อนค่าลงในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียง 1-2 ครั้งเท่านั้นในปีนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่สูงเกินคาด โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เพราะสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)