ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานสรุปความคิดเห็น (Summary of Opinions) ของกรรมการ BOJ ในวันนี้ โดยระบุว่า ในการประชุมนโยบายการเงินเดือนเม.ย. กรรมการ BOJ ได้หารือกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก หากเงินเยนยังคงอ่อนค่าลงจนทำให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น
รายงานระบุว่า กรรมการบางคนยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นของการที่ BOJ จะลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะนำไปสู่การปรับลดงบดุลของ BOJ ในที่สุด หลังจากที่ BOJ ดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษมานานหลายปีเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% จนทำให้งบดุลของ BOJ เพิ่มขึ้นอย่างมาก
นอกจากนี้ กรรมการหลายคนยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายในขณะที่เงินเฟ้อเคลื่อนไหวใกล้เป้าหมายของ BOJ ที่ระดับ 2% โดยในจำนวนนี้มีกรรมการคนหนึ่งกล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่จะอยู่ในระดับสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ในการประชุมเมื่อวันที่ 25-26 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการ BOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0-0.1% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด และในการประชุมวันดังกล่าว BOJ คาดการณ์ว่า เงินเฟ้อของญี่ปุ่นจะเคลื่อนไหวที่ระดับเป้าหมายของ BOJ ที่ 2% จนถึงปีงบการเงิน 2569 ส่วนในปีงบการเงินปัจจุบันซึ่งเริ่มต้นในเดือนเม.ย. 2567 นั้น คาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (core CPI) ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสด จะเพิ่มขึ้น 2.8% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 2.4%
นอกจากนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายของ BOJ ยังได้ประเมินผลกระทบที่เกิดจากการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมเดือนมี.ค. ซึ่งถือเป็นการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งใหญ่ หลังจากดำเนินนโยบายผ่อนคลายการเงินแบบพิเศษและสวนทางกับนโยบายการเงินของประเทศทั่วโลกมาเป็นเวลานานหลายปี
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รายงานสรุปความคิดเห็นนั้นรวบรวมโดยผู้ว่าการ BOJ และการแสดงความเห็นในรายงานนี้เป็นความเห็นโดยรวม ไม่ได้เป็นความเห็นของกรรมการ BOJ ที่เฉพาะเจาะจงแต่อย่างใด