กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 151,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 159,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 125,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค.
ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.1% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 4.0%
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐได้ปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนม.ค.เป็นเพิ่มขึ้น 125,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้น 143,000 ตำแหน่ง
ทั้งนี้ ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 140,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ขณะที่ภาครัฐมีการจ้างงาน 11,000 ตำแหน่ง
ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 4.0% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 4.2%
เมื่อเทียบรายเดือน ค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.3% สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ทั้งนี้ ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ
ส่วนตัวเลขอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งแสดงสัดส่วนของกำลังแรงงานต่อจำนวนประชากรทั้งหมด อยู่ที่ระดับ 62.4%
รายงานการจ้างงานที่ต่ำกว่าคาดดังกล่าวมีขึ้น ท่ามกลางความพยายามของกระทรวงประสิทธิภาพของรัฐบาล (DOGE) ของนายอีลอน มัสก์ ในการปลดพนักงานของรัฐ และลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล
อย่างไรก็ดี ล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เปิดเผยว่า เขาได้แจ้งต่อคณะรัฐมนตรีในการประชุมวานนี้ (6 มี.ค.) ว่า การปลดพนักงานในกระทรวงต่าง ๆ จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของรัฐมนตรีที่ควบคุมกระทรวงนั้น ๆ ไม่ใช่อยู่ที่การตัดสินใจของนายอีลอน มัสก์ หรือกระทรวงประสิทธิภาพของรัฐบาล (DOGE)
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ระบุว่า เขาได้กำชับให้บรรดาคณะรัฐมนตรีให้ความร่วมมือกับ DOGE เกี่ยวกับการปรับลดค่าใช้จ่ายและจำนวนพนักงาน แต่ย้ำว่าการตัดสินใจในขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับการปลดพนักงานจะขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีซึ่งเป็นเจ้ากระทรวง
"เป็นเรื่องสำคัญมากที่เราจะลดจำนวนพนักงานถึงระดับที่ควรจะเป็น แต่ก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกันที่เราจะต้องรักษาพนักงานที่ดีที่สุดและมีผลิตภาพมากที่สุด"
"รัฐมนตรีจะเป็นผู้ที่รู้และเข้าใจเกี่ยวกับพนักงานที่ทำงานในกระทรวง โดยเขาจะรู้ว่าใครควรจะอยู่ และใครควรจะไป เราพูดมาก่อนหน้านี้ว่า เราจะใช้ 'มีดผ่าตัด' ไม่ใช่ใช้ 'ขวาน'" ปธน.ทรัมป์ระบุใน Truth Social
ท่าทีของปธน.ทรัมป์ดังกล่าวถือเป็นการลดทอนอำนาจของนายมัสก์เป็นครั้งแรก หลังจากที่หลายฝ่ายซึ่งรวมถึงสมาชิกสภาคองเกรสสังกัดพรรครีพับลิกันแสดงความไม่พอใจต่อการที่นายมัสก์และ DOGE ใช้คำสั่งปลดพนักงานของรัฐจำนวนมาก จนนำไปสู่การฟ้องร้องในศาล
ทั้งนี้ DOGE ไม่มีสถานะเป็นกระทรวงแต่อย่างใด เนื่องจากไม่ได้รับอำนาจอย่างเป็นทางการจากสภาคองเกรสใหัมีสถานะดังกล่าว โดย DOGE เป็นองค์กรชั่วคราวซึ่งมีอายุเพียง 18 เดือน และจะหมดวาระในวันที่ 4 ก.ค.2569