เมื่อวานนี้ (3 ก.ค.) บาร์เคลย์ส (Barclays) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์สำหรับปี 2568 ขึ้นอีก 6 ดอลลาร์ สู่ระดับ 72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล พร้อมปรับเป้าปี 2569 ขึ้น 10 ดอลลาร์ เป็น 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยให้เหตุผลจากแนวโน้มอุปสงค์ที่แข็งแกร่งเกินคาด
บาร์เคลย์สระบุในบทวิเคราะห์ว่า "แม้ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์จะผ่อนคลายลงหลังการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านซึ่งมีสหรัฐฯ เป็นคนกลาง และส่วนเพิ่มความเสี่ยง (risk premium) ได้หายไปแล้ว แต่ในมุมมองของเรา การเคลื่อนไหวของราคากลับสะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่ดีกว่าที่คาดไว้"
บาร์เคลย์สชี้ว่า แม้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร หรือ โอเปกพลัส (OPEC+) จะเร่งเพิ่มกำลังการผลิต แต่น้ำมันดิบคงคลังทั่วโลกกลับปรับตัวลงในไตรมาส 2/68
ปัจจัยที่ทำให้ตลาดตึงตัวขึ้นมาจากอุปสงค์ที่เติบโตแข็งแกร่งกว่าคาด อุปทานจากนอกกลุ่มโอเปกที่เติบโตช้าลง และการที่ทบวงพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์ขึ้น
บาร์เคลย์สได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของอุปสงค์โลกขึ้น 260,000 บาร์เรลต่อวัน โดยส่วนใหญ่มาจากกลุ่มประเทศ OECD ที่ "มีอุปสงค์แข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้"
สำหรับสหรัฐฯ บาร์เคลย์สคาดว่าอุปสงค์จะโต 130,000 บาร์เรลต่อวันในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์เดิมถึง 100,000 บาร์เรลต่อวัน หลังได้รับแรงหนุนจากสภาพอากาศในช่วงต้นปี แม้ยังคาดว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงก็ตาม
ในด้านอุปทาน บาร์เคลย์สระบุว่า แม้โอเปกพลัสมีแนวโน้มจะทยอยยกเลิกการลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจเร็วขึ้น แต่การผลิตที่เพิ่มขึ้นจริงน่าจะยังคงล่าช้า เนื่องจากบางประเทศสมาชิกถูกกดดันให้ลดการผลิตเพื่อชดเชยที่เคยผลิตเกินโควตา
"ในช่วงเดือนมี.ค.-พ.ค. 2568 เป้าการผลิตของโอเปกพลัสเพิ่มขึ้น 548,000 บาร์เรลต่อวัน แต่ผลผลิตของกลุ่มกลับแทบไม่เปลี่ยนแปลง ส่งผลให้โดยรวมแล้วมีการปฏิบัติตามข้อตกลงที่ดีขึ้น" บาร์เคลย์สระบุ