รัสเซียย้ำข้อเสนอที่จะขายน้ำมันให้แก่อินโดนีเซีย แต่ก็ตั้งคำถามว่า อินโดนีเซียจะ "กล้าพอหรือไม่" ที่จะซื้อน้ำมันรัสเซียโดยไม่กลัวการลงโทษจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ
นายเซอร์เก ทอลเชนอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซีย ประจำอินโดนีเซีย กล่าวว่า ข้อเสนอของรัสเซียในการส่งออกน้ำมันและก๊าซยังคงเปิดอยู่ แต่รัฐบาลอินโดนีเซียคงต้องพิจารณาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อการเจรจาการค้ากับสหรัฐ
'เราพร้อมที่จะจัดส่งน้ำมันและก๊าซให้แก่อินโดนีเซีย แต่บอกเรามาสิว่า ใครในอินโดนีเซียที่กล้าพอจะนำเข้าน้ำมันและก๊าซของรัสเซีย โดยไม่กลัวว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะออกมาประกาศเพิ่มภาษีศุลกากรต่อผู้ที่ซื้อน้ำมันจากรัสเซีย' นายทอลเชนอฟกล่าว
ก่อนหน้านี้ นายบาห์ลิล ลาฮาดาเลีย รัฐมนตรีพลังงานอินโดนีเซีย กล่าวว่า อินโดนีเซียเปิดกว้างต่อการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย ขณะที่นายลูฮุต บินซาร์ ปันไจตัน ที่ปรึกษาประธานาธิบดี ระบุว่า ปัจจัยด้านราคาเป็นแรงจูงใจหลัก
อย่างไรก็ดี หลายเดือนผ่านไป อินโดนีเซียยังคงไม่ได้ซื้อน้ำมันจากรัสเซีย
ทั้งนี้ สหรัฐประกาศคว่ำบาตรต่อ Rosneft และ Lukoil ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันรายใหญ่ของรัสเซีย เพื่อตอบโต้ต่อการที่รัสเซียยังคงไม่ยุติการทำสงครามในยูเครน
รัฐบาลทรัมป์ยังได้ลงโทษอินเดีย โดยเก็บภาษีนำเข้าสูงถึง 50% เนื่องจากอินเดียทำการซื้อน้ำมันดิบจากรัสเซีย
นายลาโอเด ซูลาเอมัน อธิบดีกรมน้ำมันและแร่ธาตุ กระทรวงพลังงานและทรัพยากรแร่ของอินโดนีเซีย ยืนยันว่า อินโดนีเซียยังไม่ได้ลงนามในสัญญานำเข้าน้ำมันดิบหรือก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) จากรัสเซีย โดยกล่าวว่า อินโดนีเซียให้ความสำคัญต่อการซื้อน้ำมันจากสหรัฐ ก่อนที่จะพิจารณาซื้อน้ำมันจากแหล่งอื่น
ภายใต้ข้อตกลงการค้าฉบับล่าสุด ปธน.ทรัมป์ได้ลดภาษีศุลกากรต่อสินค้านำเข้าจากอินโดนีเซียสู่ระดับ 19% จากเดิมที่ระดับ 32% โดยมีเงื่อนไขว่า อินโดนีเซียจะต้องซื้อน้ำมันและผลิตภัณฑ์พลังงานจากสหรัฐ มูลค่าประมาณ 15,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงน้ำมันดิบ น้ำมันเบนซิน และ LPG