ศูนย์วิจัยพลังงานและอากาศสะอาด (CREA) เปิดเผยว่า การปล่อยคาร์บอนของจีนลดลงในเดือนก.ย. ส่งสัญญาณว่าปริมาณการปล่อยคาร์บอนตลอดทั้งปี 2568 อาจปรับตัวลดลง ซึ่งจะถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับความพยายามของโลกในการลดภาวะโลกร้อน
ลอรี มิลลูวิร์ตา หัวหน้านักวิเคราะห์จาก CREA ระบุในรายงาน Carbon Brief ว่า การปล่อยคาร์บอนของจีนลดลงประมาณ 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ภาพรวมไตรมาส 3/2568 ทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว แม้การใช้ไฟฟ้าในช่วงฤดูร้อนเพิ่มขึ้นอันเนื่องมาจากการใช้เครื่องปรับอากาศก็ตาม
รายงานชี้ว่า การปล่อยคาร์บอนของจีนทรงตัวหรือลดลงต่อเนื่องในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา โดยการปล่อยคาร์บอนจากภาคพลังงานลดลง เนื่องจากมีกำลังผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานใหม่อย่างลมและแสงอาทิตย์ ขณะที่การผลิตเหล็กและปูนซีเมนต์ที่ลดลงช่วยบรรเทามลพิษที่เพิ่มขึ้นจากภาคอุตสาหกรรมเคมี
นักวิเคราะห์กล่าวว่า แนวโน้มดังกล่าวอาจทำให้การปล่อยคาร์บอนของจีนตลอดทั้งปีเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย หรืออาจลดลง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงจะมีนัยสำคัญต่อความพยายามลดภาวะโลกร้อน เนื่องจากจีนมีสัดส่วนการปล่อยคาร์บอนราว 30% ของทั่วโลก โดยรายงานระบุว่า มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่การปล่อยคาร์บอนทั้งปี 2568 ของจีนจะลดลง หากแนวโน้มนี้ยังดำเนินต่อไป
อย่างไรก็ตาม มิลลูวิร์ตาเตือนว่า เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า จีนจะพลาดเป้าหมายลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนต่อ GDP ลง 18% ระหว่างปี 2563-2568 ซึ่งหมายความว่ารัฐบาลจีนจะต้องตั้งเป้าหมายสูงขึ้นในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระยะ 5 ปี ฉบับใหม่ เพื่อให้ประเทศสามารถบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนลง 65% ภายในปี 2573 เมื่อเทียบกับระดับปี 2548