ทั้งนี้ สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 7.7 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 425.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ที่ EIA เริ่มทำการเก็บข้อมูลตั้งแต่เดือนส.ค.1982 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.7 ล้านบาร์เรล
สำหรับสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน เพิ่มขึ้น 3.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 46.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง
ด้านสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 485,000 บาร์เรล สู่ระดับ 243.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.1990 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 3.8 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2 ล้านบาร์เรล
สำหรับอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 1.3% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.5%