บาบาร่า เฮนดริกส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมเยอรมนี กล่าวว่า เยอรมนีจะทำการปกป้องผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจภายหลังการปิดโรงไฟฟ้าพลังถ่านหิน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกล่าว ณ ที่ประชุมว่าด้วยพลังงานในกรุงเบอร์ลินว่า "เราจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการวางแผนหลีกเลี่ยงการใช้ถ่านหินอย่างมีความรับผิดชอบเพื่อบริษัทและสังคมส่วนรวม"
"เราจะต้องหาวิธีที่จะมอบอนาคตให้แก่ผู้คนและภูมิภาคต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ เราจะตรวจสอบให้แน่ชัดว่า ผลประโยชน์อันชอบธรรมต่อเศรษฐกิจจะต้องได้รับการปกป้อง"
ทั้งนี้ นางเฮนดริกส์ไม่ได้ระบุว่า เยอรมนีจะยุติอุตสาหกรรมถ่านหินเมื่อใด แต่ได้เปิดเผยว่า กระทรวงสิ่งแวดล้อมของเยอรมนีกำลังดำเนินงานตามแผนปกป้องสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ซึ่งจะส่งผลถึงการร่างมาตรการต่างๆเพื่อให้เยอรมนีบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยคาร์บอนลง 95% ภายในปี 2593 เมื่อเทียบกับปี 2533
ถ่านหินยังคงเป็นแหล่งพลังงานหลักในเยอรมนี โดยคิดเป็นสัดส่วนพลังงานที่มีอยู่ถึง 40% ในขณะเดียวกันก็มีแผนที่จะยุติการใช้พลังงานนิวเคลียร์ภายในปี 2565 โดยหวังจะใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมเท่านั้น
"พลังงานถ่านหินยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็น โดยถือเป็นสะพานนำเราไปสู่ยุคพลังงานใหม่ แต่สะพานดังกล่าวก็ยังคงมีข้อจำกัด" นางเฮนดริกส์กล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน