สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (30 พ.ค.) เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ภาษีศุลกากรล่าสุดของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 28.50 ดอลลาร์ หรือ 0.85% ปิดที่ 3,315.40 ดอลลาร์/ออนซ์
ดัชนีดอลลาร์เพิ่มขึ้น 0.1% ซึ่งทำให้ทองคำมีราคาสูงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น
ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ มีคำสั่งให้กลับมาใช้ภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อีกครั้งเมื่อวันพฤหัสบดี (29 พ.ค.) หลังจากศาลการค้าของสหรัฐฯ ตัดสินเมื่อวันพุธ (28 พ.ค.) ว่า ทรัมป์ใช้อำนาจเกินขอบเขต และมีคำสั่งให้ระงับการใช้ภาษีนั้นทันที
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ทองคำกำลังปรับฐานจากระดับสูงสุด และเข้าสู่ช่วงพักตัว
นอกจากนี้ ราคาทองคำยังคงเผชิญแรงกดดันเล็กน้อย เพราะความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง แต่ท่าทีที่แข็งกร้าวของทรัมป์ที่อาจกลับมา จะช่วยหนุนราคาทองคำในระยะต่อไป
ในด้านข้อมูลเศรษฐกิจนั้น ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ในเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 2.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 2.2%
หลังข้อมูลนี้ออกมา นักลงทุนยังคงคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมเดือนก.ย.
ทั้งนี้ ราคาทองคำซึ่งได้ประโยชน์จากภาวะดอกเบี้ยต่ำ และมักถูกใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนนั้น ได้พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,500.05 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา