ECB เผยธนาคารกลางทั่วโลกตุนทองคำในทุนสำรองมากเป็นอันดับสองรองจากดอลลาร์

ข่าวต่างประเทศ Thursday June 12, 2025 14:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยรายงานล่าสุดว่า การที่ธนาคารกลางทั่วโลกมีความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นนั้น ทำให้ทองคำกลายเป็นสินทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในระบบทุนสำรองของโลกในปี 2567

รายงานของ ECB ซึ่งเผยแพร่ในวันพุธ (11 มิ.ย.) ระบุว่า ขณะนี้ปริมาณทองคำสำรองของธนาคารกลางทั่วโลกใกล้เคียงกับระดับในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1960 และเมื่อนำปัจจัยราคาทองคำที่สูงขึ้นมาพิจารณาร่วมด้วยแล้ว ทองคำจึงเป็นรองเพียงแค่เพียงสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในฐานะสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในระบบทุนสำรองของโลก

ธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ ได้ตุนสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่อง เช่น สกุลเงินต่างประเทศและทองคำ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและเพื่อกระจายการถือครองสินทรัพย์ นอกจากนี้ การตุนสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องยังช่วยให้ธนาคารกลางสามารถนำสินทรัพย์เหล่านี้ออกมาขายเพื่อพยุงค่าเงินในประเทศในช่วงเวลาที่เกิดความตึงเครียด

ในปี 2566 ทองคำและสกุลเงินยูโรมีสัดส่วนใกล้เคียงกันที่ประมาณ 16.5% ของทุนสำรองทั่วโลกโดยเฉลี่ย และต่อมาในปี 2567 สัดส่วนของยูโรลดลงเหลือ 16% และสัดส่วนของทองคำเพิ่มขึ้นเป็น 19% ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีสัดส่วนสูงถึง 47% ในทุนสำรองทั่วโลก

ทั้งนี้ ทองคำถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าในระยะยาวและมีความยืดหยุ่นในช่วงที่สถานการณ์มีความผันผวน และปัจจุบันความต้องการถือครองทองคำของธนาคารกลางคิดเป็นสัดส่วนกว่า 20% ของความต้องการทองคำทั่วโลก ซึ่งเพิ่มขึ้นจากประมาณหนึ่งในสิบในช่วงคริสต์ทศวรรษ 2010

ECB ระบุว่า ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจพบว่าทองคำมีความน่าดึงดูดมากขึ้นในหมู่ประเทศกำลังพัฒนาที่มีความกังวลเกี่ยวกับการคว่ำบาตรและความเป็นไปได้ที่ว่าบทบาทของสกุลเงินหลักในระบบการเงินระหว่างประเทศจะลดน้อยลง

ราคาทองคำทำสถิติสูงสุดหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงในปี 2568 อย่างไรก็ดี ราคาทองคำเริ่มผันผวนในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ เนื่องจากตลาดโลกได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

สำหรับจุดเปลี่ยนของราคาทองคำเกิดขึ้นในช่วงที่รัสเซียส่งกำลังทหารเข้าทำสงครามในยูเครนอย่างเต็มรูปแบบในเดือนก.พ. 2565 ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนแห่ซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย โดยแรงซื้อจากจีนเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการพุ่งขึ้นของราคาทองคำ ขณะที่อินเดียและตุรกีก็อยู่ในกลุ่มผู้ซื้อรายใหญ่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ