สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพุธ (23 ก.ค.) โดยถูกกดดันจากการที่นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากมีรายงานว่า สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (EU) ใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้า ก่อนที่จะถึงเส้นตายในวันที่ 1 ส.ค.
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 46.10 ดอลลาร์ หรือ 1.34% ปิดที่ 3,397.60 ดอลลาร์/ออนซ์
เจ้าหน้าที่ EU เปิดเผยว่า EU ใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ก่อนถึงเส้นตายในวันที่ 1 ส.ค. โดยหากทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ ก็จะทำให้สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจาก EU ในอัตรา 15% ลดลงจากที่เคยขู่ว่าจะเรียกเก็บในอัตรา 30% ขณะที่สื่อรายงานว่าข้อตกลงดังกล่าวจะยกเว้นภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าบางประเภทสำหรับทั้งสองฝ่าย เช่น เครื่องบิน สุรา และอุปกรณ์ทางการแพทย์
ข่าวดังกล่าวมีขึ้นไม่นานหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศบรรลุข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่น โดยสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากญี่ปุ่นในอัตรา 15% ซึ่งต่ำกว่าที่เคยขู่ว่าจะเรียกเก็บในอัตรา 25% ในขณะที่ญี่ปุ่นจะลงทุนมูลค่า 5.50 แสนล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ และเปิดประเทศเพื่อทำการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงรถยนต์ รถบรรทุก ข้าว และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร
นักวิเคราะห์จากบริษัท TD Securities กล่าวว่า ข่าวสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่น และการที่สหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะบรรลุข้อตกลงกับ EU ได้ก่อนเส้นตายวันที่ 1 ส.ค. ส่งผลให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงอย่างคึกคึก โดยตลาดหุ้นพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งขานรับข่าวดังกล่าว
นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 29-30 ก.ค.นี้ โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 95.3% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมครั้งนี้ ขณะเดียวกันคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย. และปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค.