สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (13 ส.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวลง นอกจากนี้ กระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.ยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองคำปิดในแดนบวก
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 9.3 ดอลลาร์ หรือ 0.27% ปิดที่ 3,408.30 ดอลลาร์/ออนซ์
ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.26% แตะที่ระดับ 97.839 ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีปรับตัวลงสู่ระดับ 4.235%
การอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ ส่วนการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และตัวเลขจ้างงานที่ต่ำกว่าคาดในเดือนก.ค.
ทั้งนี้ ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 2.7% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.8% หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 2.7% เช่นกันในเดือนมิ.ย. ส่วนตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 73,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 106,000 ตำแหน่ง
นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต จะเพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.3% ในเดือนมิ.ย. และคาดว่าดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 2.9% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.6% ในเดือนมิ.ย.