ราคาทองฟิวเจอร์ร่วงลงเกือบ 1% ใกล้หลุดระดับ 3,860 ดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนขายทำกำไรจากราคาที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ราคาทองถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะลดความน่าดึงดูดของทอง ทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ณ เวลา 22.37 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลบ 36.90 ดอลลาร์ หรือ 0.95% สู่ระดับ 3,860.60 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองพุ่งขึ้นก่อนหน้านี้ ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการที่สหรัฐปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์
วุฒิสภาสหรัฐจะพักการประชุมในวันนี้ เนื่องในวัน Yom Kippur หรือที่เรียกว่า "วันชดใช้บาป" (Day of Atonement) ซึ่งเป็นวันสำคัญที่สุดวันหนึ่งของศาสนายิว ก่อนที่จะเปิดการประชุมอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ และอาจมีการลงมติครั้งใหม่ต่อร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว ทำให้สหรัฐจะอยู่ในภาวะชัตดาวน์ หรือการปิดหน่วยงานรัฐบาล ติดต่อกันอย่างน้อย 3 วัน
ในการประชุมวานนี้ วุฒิสภาสหรัฐได้ทำการลงมติเป็นครั้งที่ 2 ต่อร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว หลังจากที่ไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวในวันอังคาร
อย่างไรก็ดี ผลการลงมติวานนี้ ปรากฎว่าวุฒิสภาอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวด้วยคะแนนเสียงเพียง 55 เสียง ขณะที่คัดค้าน 45 เสียง ซึ่งคะแนนเสียงดังกล่าวไม่เปลี่ยนแปลงจากการลงมติเมื่อวันอังคาร โดยพรรครีพับลิกันยังคงไม่สามารถรวบรวมเสียงสนับสนุนมากถึง 60 เสียงตามที่กฎหมายกำหนด ส่งผลให้ร่างงบประมาณดังกล่าวตกไป และทำให้สหรัฐยังคงอยู่ในภาวะชัตดาวน์
การชัตดาวน์จะส่งผลให้กระทรวงแรงงานสหรัฐไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในวันที่ 2 ต.ค., ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันที่ 3 ต.ค. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันที่ 15 ต.ค. ซึ่งล้วนเป็นตัวเลขสำคัญต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก่อนจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 28-29 ต.ค.
ขณะนี้ ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าการชัตดาวน์ในรอบนี้จะกินเวลานานเพียงใด หลังจากที่ปธน.ทรัมป์เคยสร้างสถิติชัตดาวน์นานถึง 35 วันในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก ซึ่งเป็นระยะเวลาชัตดาวน์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ ท่ามกลางความขัดแย้งเกี่ยวกับการสร้างกำแพงกั้นแนวชายแดนระหว่างสหรัฐและเม็กซิโก ซึ่งจบลงด้วยการที่สภาคองเกรสยอมผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว โดยแลกกับการที่งบประมาณฉบับดังกล่าวไม่มีการตั้งวงเงินสำหรับการสร้างกำแพงตามที่ปธน.ทรัมป์เรียกร้อง