สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (5 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ในตลาดหุ้น
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 32.4 ดอลลาร์ หรือ 0.82% ปิดที่ 3,992.90 ดอลลาร์/ออนซ์
นักวิเคราะห์จาก Kitco Metals กล่าวว่า การที่นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับมูลค่าหุ้นที่สูงเกินไปและความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะฟองสบู่ในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังคงเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำ แม้ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 42,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 22,000 ตำแหน่ง หลังจากลดลง 29,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย.
ทั้งนี้ โดยปกติแล้วตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งจะทำให้โอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ลดน้อยลง และอาจทำให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานานขึ้น
ด้านผู้พิพากษาศาลฎีกาสหรัฐฯ ได้ขึ้นบัลลังก์พิจารณาคดีในวันพุธ เพื่อชี้ชะตาว่าการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกเก็บภาษีศุลกากรจากประเทศทั่วโลกนั้น เป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขตของกฎหมาย International Emergency Economic Powers Act (IEEPA) หรือไม่ โดยในการพิจารณาคดีดังกล่าว ผู้พิพากษาศาลฎีกาได้แสดงความสงสัยต่อความชอบด้วยกฎหมายของภาษีศุลกากรที่ปธน.ทรัมป์เรียกเก็บจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่า นอกจากปธน.ทรัมป์แล้ว ยังไม่เคยมีประธานาธิบดีคนใดใช้กฎหมาย IEEPA เพื่อกำหนดภาษีแบบนี้มาก่อน
แม้ว่าศาลฎีกายังไม่ประกาศคำตัดสินในวันพุธ แต่การตั้งข้อสงสัยดังกล่าวทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าศาลฎีกาอาจมีคำสั่งให้เพิกถอนมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของทรัมป์ในท้ายที่สุด ทั้งนี้ กระบวนการพิจารณาอาจจะต้องใช้เวลาหลายเดือน เนื่องจากประเด็นต่าง ๆ มีความซับซ้อนสูง และคาดว่าอย่างช้าที่สุด ศาลจะมีคำวินิจฉัยภายในสิ้นเดือนมิ.ย. 2569