ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวลดลงจากแรงเทขายทำกำไรของนักลงทุน หลังจากสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเกือบ 1% ในวันอังคาร (30 ธ.ค.) เพราะนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์
ณ เวลา 19.20 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 68.30 ดอลลาร์ หรือ 1.56% สู่ระดับ 4,318.00 ดอลลาร์/ออนซ์
ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำพุ่งขึ้นหลังมีรายงานว่า ยูเครนได้ลอบส่งโดรนโจมตีที่พักของประธานาธิบดีรัสเซียในแคว้นนอฟโกรอด ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซีย โดยรัสเซียประกาศว่าจะไม่ปล่อยผ่านการกระทำเช่นนี้ของยูเครน และยืนยันว่ากองทัพรัสเซียได้ระบุเป้าหมายสำหรับการตอบโต้และกำหนดเวลาสำหรับการโจมตีแล้ว
ด้านสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับเวเนซุเอลาก็ทวีความรุนแรงขึ้น นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีคำสั่งให้ปิดล้อมเรือบรรทุกน้ำมันทั้งหมดที่ถูกคว่ำบาตร ไม่ให้เดินทางเข้าและออกจากเวเนซุเอลา นอกจากนี้ เมื่อวันจันทร์ (29 ธ.ค.) ทรัมป์อ้างว่ากองทัพสหรัฐฯ ได้ทำลายพื้นที่บริเวณอู่เรือแห่งหนึ่งในเวเนซุเอลาเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยระบุว่าเป็นจุดที่กลุ่มค้ายาเสพติดใช้ลำเลียงสินค้าขึ้นเรือ ซึ่งหากคำพูดดังกล่าวเป็นความจริง จะถือเป็นการโจมตีทางบกครั้งแรกของรัฐบาลทรัมป์ต่อเวเนซุเอลา
ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 9-10 ธ.ค. โดยระบุว่า กรรมการเฟดมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมาก ซึ่งรวมถึงประเด็นความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่สหรัฐฯ กำลังเผชิญ ก่อนที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) จะมีมติด้วยคะแนนเสียง 9 ต่อ 3 ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% สู่ระดับ 3.50-3.75% ในการประชุมครั้งนี้
สมาชิก FOMC จำนวน 9 คนได้ลงมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% หลังเสร็จสิ้นการประชุมในวันที่ 10 ธ.ค. ขณะที่สมาชิก 3 คนโหวตสวนมติ ซึ่งถือเป็นจำนวนการโหวตสวนมติมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2562 โดยสตีเฟน มิแรน ผู้ว่าการเฟด โหวตให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ขณะที่เจฟฟรีย์ ชมิด ประธานเฟดสาขาแคนซัส ซิตี และออสแตน กูลสบี ประธานเฟดสาขาชิคาโก โหวตให้เฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมครั้งนี้
ทั้งนี้ การประชุมเฟดครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 27-28 ม.ค. ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 3.50-3.75% ในการประชุมครั้งนี้