สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ รายงานดัชนีภาคการผลิตที่หดตัวลงของสหรัฐนั้น ทำให้นักลงทุนมองว่าโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้มีน้อยลง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 5.7 ดอลลาร์ หรือ 0.43% ปิดที่ 1,317.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 23.6 เซนต์ หรือ 1.26% ปิดที่ 18.943 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 4.6 ดอลลาร์ หรือ 0.44% ปิดที่ 1,048.9 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 8.25 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 661.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ นอกจากนี้ นักลงทุนมองว่าโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้มีน้อยลง หลังจากผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM อยู่ที่ระดับ 49.4 ในเดือนส.ค. ลดลงจากระดับ 52.6 ในเดือนก.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 52.2
ทั้งนี้ ดัชนีที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัวของภาคการผลิต และดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ภาวะขยายตัว
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐในวันนี้ โดยข้อมูลดังกล่าวจะเป็นปัจจัยบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากที่นายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟดได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า รายงานตัวเลขการจ้างงานครั้งต่อไป จะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ผลการสำรวจของนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.8% ในเดือนส.ค.