ราคาทองฟิวเจอร์ร่วง หลังดอลล์แข็ง,สภาคองเกรสเตรียมไฟเขียวงบประมาณเลี่ยงชัตดาวน์

ข่าวเศรษฐกิจ Monday May 1, 2017 22:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ราคาทองฟิวเจอร์ย่อตัวลงในวันนี้ โดยทองได้สูญเสียความน่าดึงดูดในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากที่บรรดาแกนนำในสภาคองเกรสสามารถบรรลุข้อตกลงที่จะทำให้รัฐบาลสหรัฐมีงบประมาณบริหารประเทศจนสิ้นสุดปีงบประมาณปัจจุบันในวันที่ 30 ก.ย. โดยคาดว่าทางสภาคองเกรสจะลงมติต่อร่างกฎหมายงบประมาณดังกล่าวในสัปดาห์นี้

นอกจากนี้ การปรับตัวของของตลาดหุ้นก็ได้ฉุดอุปสงค์ของนักลงทุนในตลาดทอง

ณ เวลา 22.39 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเลกทรอนิกส์ ร่วงลง 3.20 ดอลลาร์ หรือ 0.25% สู่ระดับ 1,265.10 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นในวันนี้ ได้ลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นในกรอบ 111 เยน จากการที่นักลงทุนเพิ่มการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง หลังบรรดาแกนนำในสภาคองเกรสสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณบริหารประเทศจนสิ้นสุดปีงบประมาณปัจจุบันในวันที่ 30 ก.ย.

ณ เวลา 22.07 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ขยับขึ้น 0.06% สู่ระดับ 111.60 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.41% สู่ระดับ 121.77 เยน และดีดตัวขึ้น 0.17% สู่ระดับ 1.0914 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.10% สู่ระดับ 98.95

ทั้งนี้ นักลงทุนคลายความวิตก หลังจากที่บรรดาแกนนำในสภาคองเกรสได้บรรลุข้อตกลงสำหรับช่วงที่เหลือของปีงบประมาณปัจจุบัน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยินยอมที่จะไม่ของบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นแนวชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก ขณะที่พรรคเดโมแครตระบุว่า จะไม่มีการจัดสรรงบประมาณสำหรับการตั้งกองกำลังที่จะเนรเทศผู้อพยพเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และไม่มีการปรับลดงบประมาณสำหรับเมืองที่เป็น sanctuary cities หรือเมืองซึ่งให้ที่พักพิงแก่ผู้อพยพผิดกฎหมาย

ข้อตกลงยังรวมถึงการเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่ปธน.ทรัมป์เสนอที่ระดับ 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ยังมีการตัดงบประมาณด้านการรักษาความมั่นคงบริเวณชายแดนสู่ระดับ 1.5 พันล้านดอลลาร์ แทนที่จะเป็น 3 พันล้านดอลลาร์ที่รัฐบาลทรัมป์ร้องขอ

มีการบรรลุข้อตกลงดังกล่าวเมื่อวานนี้ หลังการเจรจาระหว่างบรรดาแกนนำของพรรคเดโมแดรตและรีพับลิกันในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยคาดว่าสภาคองเกรสจะลงมติต่อร่างกฎหมายงบประมาณดังกล่าวภายในสัปดาห์นี้ ก่อนถึงกำหนดเส้นตายในวันศุกร์ที่ 5 พ.ค.

ก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงคะแนนเสียงท่วมท้น 382-30 เสียง อนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวที่จะทำให้รัฐบาลมีงบประมาณในการใช้จ่ายต่อไปอีก 1 สัปดาห์จนถึงวันที่ 5 พ.ค. ขณะที่วุฒิสภาก็ได้อนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าวเช่นกัน

หากสภาคองเกรสไม่ได้ให้การอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวดังกล่าวภายในเส้นตายเวลาเที่ยงคืนของวันศุกร์ที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐ ก็จะส่งผลให้มีการปลดข้าราชการจำนวนหลายล้านคนเป็นการชั่วคราว และปิดหน่วยงานของรัฐบาลบางส่วน เนื่องจากขาดงบประมาณในการว่าจ้างพนักงาน

รัฐบาลและสภาคองเกรสหวังว่าการขยายเส้นตายจะช่วยให้มีเวลามากขึ้นในการเจรจากับพรรคเดโมแครตเพื่อบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณระยะยาวในวงเงินราว 1 ล้านล้านดอลลาร์ที่จะทำให้รัฐบาลมีเงินทุนบริหารประเทศจนสิ้นสุดปีงบประมาณปัจจุบันในวันที่ 30 ก.ย. และหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล

ก่อนหน้านี้ สหรัฐเคยเผชิญกับภาวะดังกล่าวในปี 2013 ซึ่งส่งผลให้มีการปิดหน่วยงานของรัฐบาลเป็นเวลา 17 วัน

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันอังคารและวันพุธนี้ ขณะที่มีการคาดการณ์กันว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ แต่จะจับตาแถลงการณ์หลังการประชุมเฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ