สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) โดยสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมิ.ย. โดยได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.9 ดอลลาร์ หรือ 0.46% ปิดที่ระดับ 1,297.9 ดอลลาร์/ออนซ์ สำหรับทั้งสัปดาห์ สัญญาทองคำปรับตัวขึ้น 0.5%
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 8.6 เซนต์ หรือ 0.51% ปิดที่ 17.049 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 3.5 ดอลลาร์ หรือ 0.36% ปิดที่ 979.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 5.10 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 931.05 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.67% ซึ่งเป็นระดับเกือบต่ำสุดในรอบปี
สกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงทำให้สัญญาทองคำมีมูลค่าที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ นอกจากนี้ การที่ตลาดหุ้นร่วงลงก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยด้วยเช่นกัน
ด้านสัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าระยะสั้นของสหรัฐปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ชี้ให้เห็นว่า เทรดเดอร์มองว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปีนี้ หลังจากที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ไม่ได้ออกมาส่งสัญญาณถึงทิศทางนโยบายการเงินหรือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ในการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ ที่เมืองแจ็กสัน โฮล เมื่อวานนี้
โดยปกติแล้ว ทองคำมีความอ่อนไหวต่อการปรับตัวขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นยังส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นด้วย ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อราคาทองคำ