ราคาทองฟิวเจอร์ทรงตัวในวันนี้ ขณะที่ได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับภาวะตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี รวมทั้งจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ณ เวลา 22.36 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเลกทรอนิกส์ บวก 1.0 ดอลลาร์ หรือ 0.07% สู่ระดับ 1,345.50 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง จะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ดอลลาร์ปรับตัวลงในวันนี้ โดยช่วงขาขึ้นถูกจำกัดจากความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี และการที่นักลงทุนลดคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ ณ เวลา 22.46 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.05% สู่ระดับ 108.75 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.21% สู่ระดับ 129.87 เยน และดีดตัวขึ้น 0.27% สู่ระดับ 1.1944 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.24% สู่ระดับ 92.03 สื่อของเกาหลีใต้รายงานว่า เกาหลีเหนือได้เริ่มเคลื่อนย้ายขีปนาวุธไปทางชายฝั่งตะวันตกของประเทศ ซึ่งคาดว่าเป็นขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ขณะที่กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้เปิดเผยว่า มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเกาหลีเหนือมีความพร้อมที่จะยิงขีปนาวุธ ICBM ครั้งใหม่ ก่อนหน้านี้ นายแฮร์รี่ คาเซียนิส ผู้อำนวยการฝ่ายสำนักศึกษาด้านการป้องกันประเทศของศูนย์พิทักษ์ผลประโยชน์แห่งชาติสหรัฐ ระบุว่า เกาหลีเหนืออาจจะทำการทดลองยิงขีปนาวุธ ICBM ในวันเสาร์ที่ 9 ก.ย.นี้ เพื่อเฉลิมฉลองวันก่อตั้งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี หลังจากที่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือเพิ่งทำการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยดำเนินการมา นางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด กล่าวว่า ขณะนี้เงินเฟ้อในสหรัฐกำลังปรับตัวลง และอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายของเฟดที่ 2% ดังนั้น เฟดจึงควรใช้ความระมัดระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จนกว่าจะมีความมั่นใจว่าราคากำลังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น "เราควรระมัดระวังในการใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน จนกว่าเราจะมีความเชื่อมั่นว่าอัตราเงินเฟ้อจะมีแนวโน้มบรรลุเป้าหมายของเรา" เขากล่าว CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสเพียง 32% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้ ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพรุ่งนี้ ซึ่ง ECB อาจส่งสัญญาณการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)