สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (10 ต.ค.) โดยภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำยังคงได้รับปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งช่วยหนุนสัญญาทองคำปิดตลาดในแบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 8.80 ดอลลาร์ หรือ 0.68% ปิดที่ระดับ 1,293.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 23.6 เซนต์ หรือ 0.68% ปิดที่ 17.207 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 18.30 ดอลลาร์ หรือ 1.99% ปิดที่ 936.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.65 ดอลลาร์ หรือ 0.6% 933.65 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.45% สู่ระดับ 93.253 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากนางซาบิน เลาเทนชเลเกอร์ รองประธานคณะกรรมการกำกับดูแลของ ECB กล่าวว่า ECB ควรลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ตั้งแต่ปีหน้า พร้อมกับมีเป้าหมายในการยุติการซื้อพันธบัตรในปีหน้าเช่นกัน
นักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำวันที่ 19-20 ก.ย.ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผู้ที่มีแนวโน้มจะขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ แทนนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน โดยมีการคาดการณ์ว่า นายเควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการเฟดสายเหยี่ยว ซึ่งสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อาจได้รับเลือกให้เป็นประธานเฟดคนใหม่