สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) หลังมีข้อมูลบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐยังอยู่ในระดับต่ำ ก่อให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจพิจารณาชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้นสู่เป้าหมายของเฟด
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับตัวขึ้น 8.10 ดอลลาร์ หรือ 0.62% ปิดที่ระดับ 1,304.60 ดอลลาร์/ออนซ์ นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 สัปดาห์ที่ทองปิดเหนือระดับ 1,300 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 14.5 เซนต์ หรือ 0.84% ปิดที่ 17.411 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ดีดตัวขึ้น 6.10 ดอลลาร์ หรือ 0.65% ปิดที่ 947.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.2% ปิดที่ 985.50 ดอลลาร์/ออนซ์
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อหลัก พุ่งขึ้น 0.5% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทะยานขึ้น 0.6% หลังจากดีดตัวขึ้น 0.4% ในเดือนส.ค.
นอกจากนี้ หากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนี CPI พื้นฐานขยับขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนก.ย. หลังจากปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค. ซึ่งถือว่ายังคงอยู่ต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟด
ขณะเดียวกัน ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ โดยเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะทำให้ทองคำมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่นๆ จึงดึงดูดใจนักลงทุนมากขึ้น