ราคาทองปรับตัวขึ้น หลังดิ่งแตะนิวโลว์ 5 เดือนครึ่งเมื่อวันศุกร์ จับตาสงครามการค้า

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 18, 2018 21:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ราคาทองปรับตัวขึ้นในวันนี้ หลังจากดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนครึ่งเมื่อวันศุกร์

ราคาทองได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน แต่ดอลลาร์ที่แข็งค่าเป็นปัจจัยจำกัดช่วงขาขึ้น

ณ เวลา 21.36 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเลกทรอนิกส์ ดีดตัวขึ้น 2.90 ดอลลาร์ หรือ 0.23% สู่ระดับ 1,281.40 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

ณ เวลา 20.24 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.04% สู่ระดับ 94.83 จากการคาดการณ์ที่ว่าช่องว่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่นจะกว้างขึ้น หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์ที่แล้ว และส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นยังคงนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในสัปดาห์ที่แล้ว

ทั้งนี้ ทำเนียบขาวประกาศบัญชีรายการสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะถูกเรียกเก็บภาษี 25% เพื่อตอบโต้การที่จีนขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐ

สำนักงานตัวแทนการค้าสหรัฐ (USTR) แถลงว่า อัตราภาษีดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ต่อสินค้าจำนวน 1,100 รายการของจีน โดยสินค้าล็อตแรกจำนวน 818 รายการ มูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ จะถูกเรียกเก็บภาษีในวันที่ 6 ก.ค. ขณะที่สินค้าล็อตที่ 2 กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา

หลังจากทางการสหรัฐออกแถลงการณ์ดังกล่าวได้ไม่นาน รัฐบาลจีนก็ได้ออกมาตอบโต้ด้วยการออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐจำนวน 659 รายการ โดยเรียกเก็บในอัตรา 25% คิดเป็นมูลค่ารวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์

รัฐสภาจีน และคณะกรรมาธิการฝ่ายกิจการศุลกากรแห่งรัฐสภาจีน แถลงว่า อัตราภาษีดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้กับสินค้านำเข้าจากสหรัฐล็อตแรกจำนวน 545 รายการ คิดเป็นมูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงสินค้าด้านการเกษตร ยานยนต์ และสินค้าทางทะเล โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค.นี้เป็นต้นไป ส่วนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจำนวนที่เหลือ จะมีการประกาศหลังจากนั้น

นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของเจ้าหน้าที่เฟดบางรายในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ