สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร แม้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงก็ตาม ซึ่งส่งผลให้สัญญาทองคำปิดตลาดร่วงลงหลุดจากระดับ 1,2700 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.8 ดอลลาร์ หรือ 0.14% ปิดที่ 1,268.9 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 13.1 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 16.328 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 4.5 ดอลลาร์ หรือ 0.52% ปิดที่ 868.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 11.00 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 935.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดตลาดปรับตัวลง แม้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ซึ่งโดยปกติแล้วจะปัจจัยหนุนตลาดทองคำก็ตาม โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.27% แตะระดับ 94.265 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว ราคาทองคำและดอลลาร์จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงข้ามกัน คือเมื่อดอลลาร์อ่อนค่าลง ราคาทองคำก็จะปรับตัวขึ้น เนื่องจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าได้เพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
อย่างไรก็ตาม การที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ ส่งผลให้นักลงทุนจำนวนหนึ่งเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 300 จุด เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่า การทำสงครามการค้าอาจทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังจากนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ทวีตข้อความเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลสหรัฐเตรียมออกแถลงการณ์จำกัดการลงทุนต่อทุกประเทศทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะจีนเท่านั้น หากพบว่าประเทศใดละเมิดสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาต่อสินค้าด้านเทคโนโลยีของสหรัฐ