ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ $1 นักลงทุนขายสินทรัพย์ปลอดภัยหลังดาวโจนส์พุ่งแรง

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 17, 2018 06:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (16 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนลดความต้องการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นเกือบ 400 จุด อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่า จีนและสหรัฐเตรียมเจรจารอบใหม่เพื่อคลี่คลายข้อพิพาททางการค้า

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1 ดอลลาร์ หรือ 0.08% ปิดที่ 1184.00 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 25.9 เซนต์ หรือ 1.79% แตะที่ 14.713 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 12.60 ดอลลาร์ หรือ 1.63% ปิดที่ 784.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 37.60 ดอลลาร์ หรือ 4.5% ปิดที่ 874.80 ดอลลาร์/ออนซ์

นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่นหุ้น หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ ภายหลังจากกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า คณะผู้แทนของจีน ซึ่งนำโดยนายหวัง โชเหวิน รมช.พาณิชย์จีน มีกำหนดจะเดินทางเยือนสหรัฐในเดือนนี้ เพื่อเจรจากับตัวแทนเจ้าหน้าที่ของสหรัฐ ซึ่งนำโดยนายเดวิด มัลพาส ปลัดกระทรวงการคลังฝ่ายกิจการระหว่างประเทศ โดยการเจรจาดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะคลี่คลายข้อพิพาททางการค้า

อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า การเจรจาดังกล่าวจะเกิดขึ้นก่อนวันที่ 23 ส.ค.หรือไม่ ซึ่งเป็นวันที่สหรัฐจะใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติมในอัตรา 25% วงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนก็ได้ขู่ตอบโต้สหรัฐเช่นกัน

นอกจากนี้ ข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเช่นกัน โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 โดยปรับตัวลง 2,000 ราย สู่ระดับ 212,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 215,000 ราย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ