สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร หลังจากที่ราคาทองปรับตัวลดลงติดต่อกันมาสองวัน อย่างไรก็ตาม สกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าต่อเนื่องยังคงสร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับตัวขึ้น 8.8 ดอลลาร์ หรือ 0.74% ปิดที่ 1,196.2 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบหกสัปดาห์ในวันพฤหัสบดี สำหรับทั้งสัปดาห์ ราคาทองลดลง 0.4% และลดลง 0.9% ในรอบเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันเดือนที่หก ขณะที่ในไตรมาสสาม ราคาทองลดลง 4.6%
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 42.2 เซนต์ หรือ 2.95% ปิดที่ 14.712 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 7.7 ดอลลาร์ หรือ 0.95% ปิดที่ 822.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้นเกือบ 0.2% ปิดที่ 1,072.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 13
นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเก็งกำไร หลังจากที่ราคาทองร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อวันพฤหัสบดี จากแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ภายหลังคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25% ในการประชุมเมื่อวันพุธตามเวลาสหรัฐ
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.1% แตะระดับ 95.04 เมื่อคืนนี้
โดยปกติแล้ว ราคาทองคำและดอลลาร์จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงข้ามกัน กล่าวคือเมื่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ราคาทองคำจะปรับตัวลง เนื่องจากดอลลาร์ที่แข็งค่าทำให้ทองคำ ซึ่งกำหนดราคาในรูปของสกุลเงินดอลลาร์ มีราคาแพงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
อย่างไรก็ดี นักลงทุนมองว่าตลาดถูกเทขายมากเกินไปแล้วในช่วงที่ผ่านมา และมีการคาดการณ์ว่าตลาดน่าจะปรับฐานขึ้น ก่อนที่จะร่วงลงอีกครั้ง