สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีที่พุ่งขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 17 ดอลลาร์ หรือ 1.41% ปิดที่ 1,188.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 32 เซนต์ หรือ 2.18% ปิดที่ 14.329 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 6.2 ดอลลาร์ หรือ 0.75% ปิดที่ 818.3 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 11.80 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 1068.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับปัจจัยลบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.15% แตะระดับ 95.75 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น จะลดความน่าดึงดูดของทองคำ โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีเมื่อไม่นานมานี้
ทั้งนี้ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีถือเป็นหลักทรัพย์ที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก รวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐ ซึ่งหมายความว่าเมื่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวขึ้น ผู้บริโภคก็มีแนวโน้มที่จะมีเงินสำหรับการใช้จ่ายลดน้อยลง แต่มีค่าใช้จ่ายในการจ่ายเงินกู้จำนองเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ยังหมายความว่าบริษัทต่างๆจะเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ จึงทำให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน