ราคาทองฟิวเจอร์ดิ่งกว่า 1% หลุด 1,500 ดอลลาร์ ปัจจัยดอลล์แข็งกดดันตลาด

ข่าวเศรษฐกิจ Friday September 27, 2019 22:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ราคาทองฟิวเจอร์ดิ่งลงกว่า 1% หลุดระดับ 1,500 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยนักลงทุนพากันเทขายทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังคาดหวังว่าจะมีความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในเดือนหน้า

นอกจากนี้ ราคาทองยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีกว่าคาด

ณ เวลา 22.16 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 15.9 ดอลลาร์ หรือ 1.05% สู่ระดับ 1,499.30 ดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองมีแนวโน้มปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3

ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 108 เยน ขณะที่นักลงทุนคาดหวังว่าจะมีความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

แหล่งข่าวระบุว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะมีขึ้นในวันที่ 10-11 ต.ค.นี้ ที่กรุงวอชิงตัน ขณะที่นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน จะเป็นผู้นำคณะเจรจาการค้าของจีน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐจะสามารถทำข้อตกลงการค้ากับจีนเร็วกว่าที่คาดไว้

"จีนจะไม่มีทางตามเราทัน ถ้าเรามีผู้นำที่ฉลาด เรามีรายได้เข้ามาหลายล้านล้านดอลลาร์ และพวกเขาสูญเสียหลายล้านล้านดอลลาร์ ทำให้พวกเขาต้องการทำข้อตกลงเป็นอย่างมาก โดยสิ่งนี้จะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คุณคิดไว้" ปธน.ทรัมป์กล่าว

ทางด้านนายเกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน เปิดเผยว่า บริษัทจีนได้ทำข้อตกลงในการสั่งซื้อถั่วเหลืองและเนื้อสุกรจำนวนมากจากสหรัฐ

คำแถลงของนายเกามีขึ้น หลังจากที่แหล่งข่าวระบุก่อนหน้านี้ว่า จีนได้สั่งนำเข้าถั่วเหลืองจำนวน 600,000 ตันจากสหรัฐ หลังการเจรจาการค้าในระดับรัฐมนตรีช่วยระหว่างสหรัฐและจีนที่กรุงวอชิงตัน

ถั่วเหลืองจำนวน 600,000 ตันดังกล่าว ถือเป็นจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่ที่จีนปรับเพิ่มภาษีที่เรียกเก็บจากถั่วเหลืองที่นำเข้าจากสหรัฐสู่ระดับ 25% ในเดือนก.ค.ปีที่แล้ว เพื่อตอบโต้สหรัฐที่ได้เพิ่มภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน

การที่จีนสั่งซื้อถั่วเหลืองดังกล่าว ถือเป็นการส่งสัญญาณบวกต่อการบรรลุข้อตกลงการค้าในการเจรจาในระดับรัฐมนตรีระหว่างสหรัฐและจีนที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตาปัจจัยการเมืองในสหรัฐ หลังจากที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ประกาศการเริ่มกระบวนการไต่สวนอย่างเป็นทางการเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่ง หลังจากมีรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เพื่อกดดันให้มีการสอบสวนนายโจ ไบเดน ซึ่งเป็นคู่แข่งคนสำคัญของปธน.ทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยหน้า โดยการกระทำดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการเปิดทางให้รัฐบาลต่างชาติเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ