สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ธ.ค.) โดยนักลงทุนกลับเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐ หลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยหนุนตลาดทองคำ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 5.7 ดอลลาร์ หรือ 0.39% ปิดที่ 1,484.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค.
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 10.5 เซนต์ หรือ 0.62% ปิดที่ 17.154 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 935.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 4.80 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,901 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ขณะที่สถานการณ์การเมืองในสหรัฐยังไม่แน่นอน หลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ลงมติถอดถอนปธน.ทรัมป์ในข้อหาการใช้อำนาจในทางมิชอบ และขัดขวางกระบวนการสอบสวนของสภาคองเกรส
สำหรับขั้นตอนต่อไปนั้น วุฒิสภาจะทำการไต่สวนปธน.ทรัมป์ในเดือนหน้า อย่างไรก็ดี การที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ทำให้ปธน.ทรัมป์มีแนวโน้มรอดพ้นจากการถูกถอดถอนในวุฒิสภา
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.06% สู่ระดับ 97.34 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าได้เพิ่มความน่าดึงดูดของทองคำ เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาถูกลงสำหรับผู้ที่ถือครองเงินสกุลอื่นๆ