ราคาทองฟิวเจอร์ดิ่งเหว 90 ดอลลาร์ หลุดแนว 1,950 หลากปัจจัยทุบตลาด

ข่าวต่างประเทศ Tuesday August 11, 2020 21:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ราคาทองฟิวเจอร์ดิ่งลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดทรุดหนัก 90 ดอลลาร์ หลุดแนว 1,950 ดอลลาร์ หลังมีข่าวว่า รัสเซียได้จดทะเบียนวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เป็นประเทศแรกในโลก

ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์เคยเตือนว่า ความสำเร็จของการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะฉุดราคาทอง หลังจากที่พุ่งขึ้นในระยะนี้

นอกจากนี้ ราคาทองยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์, แรงขายทำกำไรในตลาด และความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ

ณ เวลา 21.16 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 90.30 ดอลลาร์ หรือ 4.42% สู่ระดับ 1,949.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สำนักข่าว RIA Novosti ของรัสเซียรายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ประกาศว่า รัสเซียเป็นประเทศแรกของโลกที่มีการจดทะเบียนวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19

"เท่าที่ผมทราบ รัสเซียได้จดทะเบียนวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เมื่อเช้านี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกของโลก" ปธน.ปูตินกล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีรัสเซียวันนี้

"วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพมาก โดยสามารถสร้างภูมิคุ้มกันอย่างมีเสถียรภาพ และวัคซีนนี้ได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบทั้งหมดแล้ว" ปธน.ปูตินกล่าว

ทั้งนี้ วัคซีนดังกล่าวได้เสร็จสิ้นการทดลองทางคลินิกในเวลาไม่ถึง 2 เดือน และจะมีการเริ่มทดลองในเฟส 3 ในไม่ช้า

นอกจากนี้ ปธน.ปูตินยังเปิดเผยว่า บุตรสาวคนหนึ่งของเขาได้รับการฉีดวัคซีนดังกล่าวแล้ว โดยได้เข้าเป็นอาสาสมัครคนหนึ่งในโครงการทดลองวัคซีน

นายยุง-ยู หม่า หัวหน้านักวิเคราะห์ด้านการลงทุนของบริษัทบีเอ็มโอ เวลธ์ แมเนจเมนท์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีหลายปัจจัยที่ขับเคลื่อนราคาทองให้ดีดตัวขึ้น แต่ก็มี 2 เหตุการณ์สำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงทิศทางของราคาทอง

"2 เหตุการณ์สำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงทิศทางราคาทอง ได้แก่ การพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 และการเลือกตั้งในสหรัฐ" นายหม่ากล่าว

นายหม่าระบุว่า วัคซีนต้านโควิด-19 มีแนวโน้มที่จะสกัดปัจจัยบวกที่กำลังหนุนราคาทอง

ทางด้านเธิร์ด บริดจ์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นสำนักวิจัย ระบุว่า ราคาทองอาจดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 1,600 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย. ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นต่อไปในปีหน้า

ขณะเดียวกัน ราคาทองยังถูกกระทบจากความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ โดยนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และสภาคองเกรสจะสามารถบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้

นายมนูชินกล่าวว่า ยังคงมีโอกาสที่ทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ในการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และกฎหมายดังกล่าวจะสามารถผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรส


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ