สัญญาทองแดงตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (29 ก.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งทำให้สัญญาทองแดงซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐมีราคาถูกลงและมีความน่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
สัญญาทองแดงตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 12.05 เซนต์ หรือ +2.53% ปิดที่ 4.8920 ดอลลาร์/ปอนด์
นอกจากนี้ ราคาทองแดงยังได้รับแรงหนุนจากความวิตกกังวลเรื่องซัพพลายตึงตัว หลังเกิดเหตุโคลนถล่มขนาดใหญ่ที่เหมืองกราสเบิร์ก (Grasberg) ในอินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็นเหมืองทองแดงใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก จนทำให้บริษัทฟรีพอร์ต-แมคโมแรน (Freeport-McMoRan) ผู้ดำเนินการเหมือง ประกาศภาวะสุดวิสัย (Force Majeure) พร้อมเตือนว่า อาจไม่สามารถส่งมอบทองแดงและทองคำตามสัญญาได้เต็มจำนวน
ฟรีพอร์ตคาดการณ์ว่า ผลกระทบครั้งนี้อาจทำให้กำลังการผลิตในอินโดนีเซียในปี 2569 หายไปถึง 35% จากที่เคยประเมินไว้ และคาดว่าจะสามารถกลับมาเริ่มผลิตได้อีกครั้งอย่างเร็วที่สุดในช่วงครึ่งแรกของปี 2569 ซึ่งนักวิเคราะห์จาก Marex มองว่า ปริมาณทองแดงที่หายไปนี้จะสร้าง "ช่องโหว่ขนาดใหญ่ในห่วงโซ่อุปทาน"
ด้านโกลด์แมนแซคส์ ธนาคารเพื่อการลงทุนชั้นนำของสหรัฐฯ ประกาศปรับลดคาดการณ์อุปทานทองแดงจากเหมืองทั่วโลกในปี 2568 และ 2569 หลังเกิดเหตุโคลนถล่มขนาดใหญ่ที่เหมืองกราสเบิร์ก
โกลด์แมนแซคส์ประเมินว่า เหตุการณ์โคลนถล่มครั้งนี้จะทำให้อุปทานทองแดงหายไป 5.25 แสนตัน พร้อมปรับลดคาดการณ์อุปทานทองแดงทั่วโลกครึ่งหลังของปี 2568 ลง 160,000 ตัน และปี 2569 ลง 200,000 ตัน