สัญญาทองแดงตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (31 ส.ค.) เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ จากแรงกดดันของข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดของสหรัฐ ซึ่งทำให้เกิดกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
สัญญาทองแดงตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.15 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 3.0985 ดอลลาร์/ปอนด์
ตลาดทองแดงนิวยอร์กได้รับแรงหนุน เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นปัจจัยให้สัญญาทองแดงซึ่งซื้อขายด้วยสกุลเงินดังกล่าวมีราคาถูกลงเมื่อเทียบสกุลเงินอื่น ส่งผลให้ผู้ถือครองเงินสกุลอื่นต้องการเข้าซื้อสัญญาทองแดงเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนส.ค. ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 51.7 จากระดับของเดือนก.ค.ที่ 51.4
สหรัฐและจีนเป็นประเทศที่มีการใช้ทองแดงมากที่สุด 2 อันดับแรกของโลก ข้อมูลเศรษฐกิจของ 2 ประเทศนี้จึงมีอิทธิพลต่อตลาดทองแดง
อย่างไรก็ดี ราคาทองแดงปรับตัวขึ้นไม่มากนัก หลังสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ร่วงลง 0.8% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.
สถิติที่ปรับตัวลงนี้สวนทางกับการคาดการณ์ที่คาดว่าจะขยายตัวขึ้น และยังเป็นสถิติที่อ่อนตัวลงเป็นเดือนที่ 4 ในรอบ 5 เดือนที่ผ่านมา
ทองแดงเป็นที่นิยมใช้ในวงการก่อสร้าง ตัวเลขภาคอสังหาฯ จึงมีอิทธิพลต่อตลาดทองแดง
ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ในวันนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญในการใช้ประกอบการพิจารณาทิศทางนโยบายการเงิน
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนส.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเดือนก.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน