ภาวะการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ในวันอังคาร (20 พ.ค.) สัญญาธัญพืชปิดบวกทั้งกระดาน นำโดยสัญญาข้าวสาลีที่ราคาพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค.
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 7.00 เซนต์ หรือ +1.56% ปิดที่ 4.5450 ดอลลาร์/บุชเชล, สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 17.00 เซนต์ หรือ +3.21% ปิดที่ 5.4600 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 2.25 เซนต์ หรือ +0.21% ปิดที่ 10.5300 ดอลลาร์/บุชเชล
ราคาสัญญาข้าวสาลีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ เนื่องจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และการประเมินคุณภาพข้าวสาลีของสหรัฐฯ ที่ออกมาแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนแห่ซื้อคืนเพื่อปิดสถานะชอร์ต (short-covering) หลังจากสัปดาห์ที่แล้วราคาข้าวสาลีตกต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี
นักวิเคราะห์ตลาดกล่าวว่า ราคาข้าวสาลีเป็นที่สนใจของเทรดเดอร์จำนวนมาก ซึ่งกำลังติดตามอย่างใกล้ชิดทั้งสภาพความสมบูรณ์ของผลผลิตข้าวสาลีในสหรัฐฯ และรายงานปัญหาสภาพอากาศทั่วโลก
ในรายงานประจำสัปดาห์ที่เผยแพร่หลังตลาดปิดเมื่อวันจันทร์ (19 พ.ค.) กระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ (USDA) ประเมินว่า 52% ของผลผลิตข้าวสาลีฤดูหนาวของสหรัฐฯ อยู่ในสภาพดีถึงดีเยี่ยม ซึ่งลดลง 2% จากสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยากลางของจีนเตือนว่า ลมที่ทั้งแห้งและร้อนในสัปดาห์นี้อาจสร้างความเสียหายต่อผลผลิตข้าวสาลีฤดูหนาวในพื้นที่เพาะปลูกหลัก ๆ รวมถึงมณฑลเหอหนาน ซึ่งเป็นแหล่งอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศในด้านการเพาะปลูกข้าวสาลี
นักวิเคราะห์จากบริษัทที่ปรึกษา Consus Ag Consulting กล่าวว่า เขาได้รับรายงานจากผู้ติดต่อทางธุรกิจในจีนว่า บางพื้นที่ของมณฑลเหอเป่ย์มีอุณหภูมิสูงถึง 42.39 องศาเซลเซียส และในบางส่วนของมณฑลเหอหนานอุณหภูมิสูงถึง 41.5 องศาเซลเซียส พร้อมกับมีลมกระโชกแรงพัดผ่านไร่นา
"ผมเคยเห็นข้าวสาลีทนความร้อนจัดได้สองสามวันแล้วไม่เป็นอะไร แต่ถ้าเจอทั้งความร้อนและลมแรงพร้อมกัน นั่นไม่ใช่เรื่องดีต่อสุขภาพของพืชผลเลย" นักวิเคราะห์กล่าว
ในส่วนของสัญญาข้าวโพดนั้น ราคาก็ปรับตัวสูงขึ้นตามข้าวสาลี แตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ ขณะที่เทรดเดอร์จับตาข่าวการเจรจาการค้าของสหรัฐฯ
ส่วนสัญญาถั่วเหลืองราคาก็ขยับขึ้นเช่นกัน ท่ามกลางแรงซื้อคืนเพื่อปิดสถานะชอร์ตจำนวนมากในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน ขณะที่ผู้เล่นในตลาดพยายามประเมินว่า ฝนที่ตกหนักเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้สร้างความเสียหายหนักต่อผลผลิตในแถบอเมริกาใต้หรือไม่
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา พื้นที่เกษตรกรรมหลักของอาร์เจนตินาเผชิญกับฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง และทำให้ไร่ถั่วเหลืองบางแห่งจมอยู่ใต้น้ำ โดยมีรายงานว่าบางพื้นที่วัดปริมาณน้ำฝนได้สูงถึง 400 มิลลิเมตร