รัฐบาลญี่ปุ่นตั้งเป้าลดราคาข้าวลงเหลือ 2,000 เยน (ราว 14 ดอลลาร์) หรือราว 460 บาทต่อ 5 กิโลกรัม ท่ามกลางความกังวลที่ว่าราคาข้าวที่สูงในปัจจุบันอาจส่งผลกระทบต่อคะแนนนิยมของรัฐบาล ก่อนการเลือกตั้งวุฒิสภาที่จะมีขึ้นในเดือนก.ค.
นอกจากนี้ รัฐบาลจะผลักดันการขนส่งข้าวไปยังร้านค้าปลีกให้เร็วขึ้น โดยจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการขนส่ง เพื่อให้ข้าวจากคลังสำรองของรัฐบาลสามารถวางจำหน่ายในร้านค้าในราคา 2,000 เยนได้ตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย.
ขณะเดียวกัน รัฐบาลจะระบายข้าวจากคลังสำรองจำนวน 300,000 เมตริกตัน ซึ่งคิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของปริมาณการบริโภคข้าวรายเดือนของชาวญี่ปุ่น ผ่านการทำสัญญาการจำหน่ายโดยตรงกับผู้ค้าปลีก
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ระบายข้าวสำรองในเดือนมี.ค.ผ่านการประมูล 2 ครั้ง รวม 210,000 เมตริกตัน แต่ปรากฎว่า ณ ปลายเดือนเม.ย. มีข้าวจำนวนเพียง 7% เท่านั้นที่ถึงมือร้านค้า เนื่องจากระบบการกระจายสินค้ามีหลายขั้นตอนและใช้เวลานาน นอกจากนี้ ราคาขายหน้าร้านก็ยังคงอยู่ในระดับสูง เนื่องจากข้าวตกไปอยู่ในมือของผู้ประมูลในราคาสูงสุด
ข้อมูลล่าสุดเมื่อเมื่อวานนี้แสดงให้เห็นว่า ราคาข้าวในซูเปอร์มาร์เก็ตเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน โดยอยู่ที่ระดับ 4,285 เยน (ราว 29.97 ดอลลาร์) หรือราว 980 บาท ต่อ 5 กิโลกรัม ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 พ.ค.
นายทิม ฮาร์คอร์ต หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งซิดนีย์ (UTS) กล่าวว่า ราคาข้าวที่พุ่งสูงในญี่ปุ่นเกิดจากสาเหตุหลายประการ ได้แก่ การที่ชาวญี่ปุ่นพากันซื้อข้าวเพื่อกักตุนด้วยความตื่นตระหนก หลังจากมีข่าวลือเกี่ยวกับการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเดือนก.ค., การขาดแคลนข้าวสาลีจากการทำสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ทำให้ประชาชนหันมาบริโภคข้าวแทน รวมทั้งการที่จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และอุตสาหกรรมบริการด้านอาหารที่คึกคัก ส่งผลให้ความต้องการข้าวเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ อากาศที่ร้อนจัดในช่วงฤดูร้อนปี 2566 ได้ทำให้ผลผลิตข้าวเสียหาย และผลผลิตทางการเกษตรกรลดลง
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาข้าวในญี่ปุ่นพุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์ในระยะนี้ เกิดจากมังงะ หรือการ์ตูนญี่ปุ่น ชื่อดัง "The Future I Saw" ที่ทำนายว่าจะเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในญี่ปุ่นในวันที่ 5 ก.ค.2025 ทำให้ผู้ที่เชื่อตามคำทำนายดังกล่าวพากันซื้อข้าวกักตุนไว้เพื่อให้มีอาหารเพียงพอหากเกิดแผ่นดินไหวจริง
ทั้งนี้ มังงะ "The Future I Saw" เป็นผลงานแนวกึ่งอัตชีวประวัติของ เรียว ทัตสึกิ ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกในช่วงปี 1990 โดยอ้างว่าเธอมีความสามารถในการฝันล่วงหน้า ซึ่งเนื้อหาในหนังสือบันทึกคำทำนายไว้มากกว่าร้อยรายการ โดยคำทำนายบางอย่างเกิดขึ้นจริง เช่น แผ่นดินไหวโกเบในปี 1995 รวมทั้งเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิที่โทโฮคุในเดือนมี.ค.2011
นอกจากนี้ ทัตสึกิระบุว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งต่อไปอาจเกิดขึ้นในวันที่ 5 ก.ค.2025 ซึ่งสร้างความแตกตี่นในโซเชียลมีเดีย และทำให้เกิดความวิตกในหมู่ประชาชน โดยทัตสึกิบรรยายถึงเหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งใหญ่ว่าเกี่ยวข้องกับการปะทุของภูเขาไฟใต้ทะเล ซึ่งทำให้ทะเลบริเวณตอนใต้ของญี่ปุ่นเกิดการเดือด และตามมาด้วยการเกิดอภิมหาคลื่นยักษ์สึนามิ
แม้ว่ามังงะดังกล่าวไม่ได้ระบุจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอย่างชัดเจน แต่จากการตีความของผู้อ่านและในโลกออนไลน์ ทำให้เชื่อว่าจะเกิดภัยพิบัติขนาดใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อกรุงโตเกียวและเมืองใหญ่ในญี่ปุ่น